ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2565 ทีมผู้สื่บข่าวรายงานว่า มีหนุ่มผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งได้โพสต์คลิปรีวิวชีวิตหลังใช้สิทธิ์โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” แต่จู่ๆ กับตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการทุจริตในโครงการ

โดยชายดังกล่าวได้เล่าว่า “ผมโดนหมายเรียกหลังไปใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมได้ใช้โครงการที่จังหวัดภูเก็ต และเข้าไปพักโรงเเรมเเห่งหนึ่ง ล่าสุดก็มีหมายมาที่บ้าน บอกว่าต้องไปให้ ปากคำในฐานะพยานแล้วถ้าหมายเรียกสองครั้งยังไม่มาจะออกหมายจับทันที ซึ่งผมได้ควักตังจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่ารถ เพื่อเดินทางมาสภ. เเต่เมื่อเดินทางมาถึงที่สถานนีตำรวจ กลับมีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า น้องๆพี่ต้องตอบตำรวจอย่างไร ผมก็ถามกลับไปว่าพี่ได้มาพักไหมครับ เขาบอกว่าไม่ได้มาพัก ผมเลยตอบเขาไปว่า ต้องตอบความจริง เพราะผมได้เข้ามาพัก และสมัครโครงการเองทุกอย่าง เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เข้าใจว่าการที่ถูกเรียกสอบเกิดจากการณ์ทุจริตบางอย่าง ซึ่งผมได้ถามเจ้าหน้าที่ พบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง และทางตำรวจได้ส่งเรื่องเรียกหมายจับวันหนึ่งละ 100 ราย แต่มีคนมาให้ปากคำเพียงวันละ 10 คนเอง” 

นอกจากนี้หนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อในการโกง เขาก็ได้ถกถามชวนตั้งข้อสงสัยต่อว่า “ทั้งค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าอยู่ ใครจะรับผิดชอบ ทั้งที่ผมไม่มีส่วนผิด หรือรู้เห็นเกี่ยวกับการทุจริตในครั้งนี้เลย ถ้าผมไม่มาก็จะโดนหมายจับอีก อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ บางโครงการอย่าไปทุจริตครับ มันเดือดร้อนคนอื่นเขา”

อย่างไรก็ตามหลังจากที่หนุ่มโพสต์คลิปลงโซเชียล กับได้รับความสนใจล้มหลาม โดยส่วนใหญ่ติเรื่องการทำงานของตำรวจ อาจจะส่งเรื่องมาที่ สภ.ใกล้ๆก็ได้ ไม่เห็นต้องเป็นที่สภ.ที่เกิดเหตุ อีกทั้งบางกลุ่มได้คอมเมนต์แซวชายรายนี้ว่า หากอยากหวังเงินชดเชยจริงๆ คงไม่ได้ เพราะหลายคนที่มาเมนต์ก็เคยเจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ซึ่งไม่เคยมีใครได้รับเงินเยียวยา ทั้งที่ไม่มีความผิดอะไร แต่ต้องออกค่าเดินทาง ค่าอาหารเอง…

คลิกเพื่อชมคลิป