เมื่อวันที่ 4 ต.ค. สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) จัดการประชุมสมัชชาใหญ่ ครั้งที่ 41 ที่โรงแรมโซคา ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมี สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมด้วย มร.ราชา รันธีร์ ซิงห์ ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และรักษาการประธานโอซีเอ, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซีเมมเบอร์) และบอร์ดบริหารโอซีเอ พร้อมด้วยกรรมการบริหารโอซีเอ รวมทั้งผู้แทนชาติสมาชิก จากทั้ง 45 ประเทศ เข้าร่วม

สำหรับประเทศไทย นำโดย นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานโอซีเอ ในฐานะคณะกรรมการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์, นายธนา ไชยประสิทธ์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา และนางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เข้าร่วม

ที่ประชุมมีวาระในการนำเสนอความพร้อมการเป็นเจ้าภาะจัดการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 17-26 พ.ย.2566 ที่กรุงเทพฯ และจังหวัดชลบุรี ซึ่ง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เป็นผู้นำเสนอความพร้อมต่อที่ประชุม

หลังการประชุม ดร.ก้องศักด เปิดเผยว่า ตอนนี้เราพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งเรื่องของการบริหารจัดการ การกำหนดวันต่างๆ ซึ่งตนได้ชี้แจงให้โอซีเอ ได้รับทราบว่ามีกระบวนการอะไรที่เกิดขึ้นแล้วบ้าง รวมถึงยืนยันเรื่องของชนิดกีฬา ตอนนี้มีทั้งหมด 34 ชนิดกีฬา ล่าสุดได้เพิ่ม เบสบอล ประเภททีม 5 คน จากมติของที่ประชุม ซึ่งประเทศไทย ก็ยินดีที่จะจัดการแข่งขัน รวมไปถึง 2 กีฬาสาธิต อย่าง เทคบอล และกีฬาทางอากาศ

“เรื่องงบประมาณเรานำเสนอไปยังรัฐบาลแล้ว ซึ่งยืนยันว่าเป็นการใช้งบประมาณจัดการแข่งขันที่ประหยัดที่สุดแล้ว เมื่อเทียบกับทัวร์นาเมนต์ที่เป็นระดับเอเชีย พยายามลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงให้มากที่สุด โดยเฉพาะการสร้างสิ่งปลูกสร้างใหม่ จะไม่ทำเลย จะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้ว นำมาปรับปรุงซ่อมแซม ส่วนเรื่องงบประมาณว่าจะเอาจากส่วนไหน ไม่ว่าจะเป็นงบของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ หรือ งบกลาง ตอนนี้ต้องรอความเห็นของสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง โดยตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องการผนวกท่องเที่ยวและกีฬาเข้าด้วยกัน ดังนั้นเงินทุกบาทที่ลงทุนไป นอกจากได้ประโยชน์ในเรื่องของกีฬาแล้ว ยังได้เรื่องการท่องเที่ยวอีกด้วย” บิ๊กก้อง ย้ำ

สำหรับ 34 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย กรีฑาในร่ม, คิวสปอร์ต, โบว์ลิ่ง, ลีลาศ, หมากรุก, ฟุตซอล, โรลเลอร์สปอร์ต, ปีนหน้าผา, ว่ายน้ำระยะสั้น, มวย, ยูยิตสู, จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์, ตะกร้อลอดห่วง/เซปักตะกร้อ, คูราช, ฟลอร์บอล, เนตบอล, เทควันโด, ฮอกกี้ในร่ม, คาราเต้, อีสปอร์ต, แบดมินตัน, ปันจักสีลัต, เชียร์ลีดดิ้ง, แซมโบ, เรือพายในร่ม, วอลเลย์บอล, บาสเกตบอล 3 คน, มวยปล้ำ, คิกบ็อกซิ่ง, ฟันดาบ, กาบัดดี้, โรลเลอร์สกี, ยกน้ำหนัก และเบสบอล ทีม 5 คน โดยมี เทคบอล, แอร์สปอร์ต (โดรนในร่ม) เป็นกีฬาสาธิต