เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ในรายการโหนกระแส โดยพิธีกร หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เชิญ นางศรัญญา อุปปาตะสันติ หรือ ไฮโซศรัญญา หรือ “หญิงไก่” อายุ 65 ปี ที่เคยตกเป็นข่าวขึ้นโรงขึ้นศาล จนภายหลังมีการยกฟ้อง มาสอบถามพูดคุยหลังจากทราบว่า ไปเกี่ยวข้องกับครอบครัวเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง โดยฝ่ายลูกชายได้ไปร้องกองปราบปรามให้ตรวจสอบว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 75 ปี เศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ไปแต่งงานกับ “หญิงไก่” แล้วมีการทำธุรกรรมทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท โดยภายหลังฝ่าย หญิงไก่ ยังไปให้ข่าวว่า ทางครอบครัวได้ลักพาตัว นายเอ ไปจากที่พักอีกด้วย ขณะที่ฝ่ายลูกชายยืนยันว่า เป็นการพาพ่อกลับมาบ้านพัก ไม่ได้ลักพาตัวไปตามที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง

โดย หญิงไก่ ได้เล่าเรื่องราวความรักระหว่าง นายเอ กับตัวเองให้หนุ่ม-กรรชัย ฟังว่า ไปเจอกันจากการทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน กระทั่งภายหลังมีการหมั้นหมายกัน ก่อนไปจดทะเบียนสมรสกันในวันที่หย่าขาดจากสามีเก่า ซึ่งฝ่าย นายเอ เป็นคนไปพูดคุยกับอดีตสามีให้มาหย่าขาดเอง ส่วนที่ใส่แหวนตำรวจไว้นั้น เป็นเพราะมีน้อง ๆ ตำรวจนายร้อยเป็นพรรคพวกหลายคน สำหรับประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่าเอาไป 50 ล้านบาทนั้น หญิงไก่ยืนยันว่า เป็นการซื้อหุ้นกว่า 2 ล้านบาท มีการโอนคอนโดมิเนียมของสามีให้แก่ลูกชายจริง สำหรับ นายเอ สามีไม่ทราบว่าไปอยู่ไหน เพราะโดนอีกฝ่ายพาไป บอกตรง ๆ ว่า ถูกเด็กหักหลัง ปกติวันศุกร์จะกลับบ้าน อาทิตย์เย็นจะไปหา คือเราไม่เคยขัง

ส่วนประเด็นการรูดการ์ดบัตรเครดิตกว่า 3.5 ล้านนั้น ฝ่ายหญิงไก่ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว แล้วยังถามกลับว่า นายเอ ว่า เป็นฝ่ายรูดการ์ดซื้อของให้ตนจริงไหม ให้ลองไปถามกันเอง อย่างไรก็ตามในส่วนของรถเก๋ง BMW เป็นการออกเงินคนละครึ่ง ส่วนกระเป๋าพราด้า 2 แสนนั้น ฝ่ายสามีซื้อให้เอง ส่วนประเด็นเช็ค 100 ล้าน ก็ไม่ได้มีเงินแต่อย่างใด แต่สามีให้เก็บไว้อ้างว่า เอาไว้ขายทรัพย์สินได้แล้วจะให้ทีหลัง

หญิงไก่ ยังได้เล่าเรื่องด้วยว่า ที่ดินเป็นสินสมรส คุณพ่อเล่าหมด เพราะพาไปกราบแม่กราบเตี่ยที่นครปฐม พาไปร้องเพลง ตนประทับใจและรักกันตรงนี้ คบกัน 4 เดือน ก็มีการไปให้จดทะเบียน โดยฝ่ายชายรบเร้าให้ไปเอง ฝ่ายหนุ่ม-กรรชัย จึงรีบตัดบทถามนำว่า ผมถามเรื่องสินสมรสอยู่ทราบหรือไม่คืออะไร ฝ่ายหญิงไก่ กล่าวว่า รู้ว่าคืออะไร เพราะแกหาเองหมด แกเล่าเกลี้ยงเลย สามีไม่เคยไม่โกหก ซึ่งคำตอบดังกล่าว ทำให้พิธีกรหนุ่ม-กรรชัย ถึงกับรู้สึกมึนงง จึงถามกลับไปใหม่ว่า เป็นไปได้ไหมหากฝ่ายนายเอ จะอ้างว่าทรัพย์ของบริษัทเป็นทรัพย์ตัวเอง ฝ่ายหญิงไก่กล่าวว่า ท่านเป็นนักกฎหมายนะ ตนเชื่อว่าท่านพูดจริง ถ้าไม่งั้นจะอัดคลิปเหรอ ขับรถไปกำแพงเพชรเหรอ ที่บอกว่าอยากจะแต่งงานด้วย จากนั้นในรายการได้เปิดคลิปที่หญิงไก่ เป็นฝ่ายถามนำว่า อยากจดทะเบียนไหม เมื่อไหร่ อย่างไร ทำให้หนุ่ม-กรรชัย ถึงกับบอกว่า “…งานไม่ใหญ่แน่นะวิ นี่วิไปถามนำเขาหรือเปล่า?” หญิงไก่กล่าวว่า ก็เขาให้เก็บคลิปเพราะต้องเอาไปใช้สักวัน

ในรายการยังมีการพูดถึงประเด็นที่ นายเอ ป่วยเป็นโรคต่าง ๆ โดยฝ่าย นายศุภโชค บุตรชาย อ้างว่า พ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ สุ่มเสี่ยงเป็นไต เบาหวาน เคยผ่าตัดบายพาสหัวใจมาแล้ว ต้องไปตรวจสุขภาพ แต่ช่วงที่ไปอยู่กับ หญิงไก่ ต้องรบเร้าให้พาไป กระทั่งส่งใบตรวจจากแพทย์มาให้ดูว่า คุณพ่อของตนยังมีสติ สามารถทำนิติกรรมสัญญาได้ ซึ่งตนเชื่อว่า การตรวจเช่นนี้ไม่ได้เป็นการพาไปตรวจสุขภาพเพื่อรักษาโรคที่ท่านเป็น ขณะฝ่ายหญิงไก่ อ้างว่า นายเอ สุขภาพแข็งแรงมาตลอด ไม่มีอาการผิดปกติ ยังพาไปร้องเพลงได้อยู่เลย ทำให้นายศุภโชค กล่าวว่า โรคของพ่อสาหัส แต่ดูด้วยตาเปล่าไม่ได้

ในช่วงท้ายรายการ พิธีกรหนุ่ม-กรรชัย ได้ถามถึงเรื่องที่จะให้สองฝ่ายหาทางออกร่วมกัน โดยมีการพูดคุยตกลงกันเกี่ยวกับทรัพย์สิน ซึ่งให้ทั้งฝ่ายเคลียร์กันให้ได้ ซึ่งนายศุภโชคเสนอว่า ขอให้เลิกยุ่งกับคุณพ่อและครอบครัวผม ทรัพย์สินเงินสดที่เอาไปขอให้คืนกลับมา และให้เลิกทำแบบนี้ ซึ่งฝ่ายหญิงไก่รับปากว่า จะคืนทรัพย์สินก็ได้แต่ต้องให้ฝ่าย นายเอ มาพูดคุยขอคืน และจะต้องคืนทรัพย์สินของตนที่ให้ไปด้วย

นายศุภโชคจึงถามหญิงไก่ว่า ทรัพย์สินที่คุณพ่อเอาไปมีประมาณเท่าไร หรือมีอะไรบ้าง แต่ฝ่ายหญิงไก่ไม่ขอตอบ ทำให้ นายศุภโชค กล่าวว่า มีรายงานแจ้งมาว่า ฝ่ายหญิงไก่ เคยพูดคุยกับบุคคลอื่นให้พยายามขึ้นเงิน 50 ยูโร ซึ่งฝ่ายหญิงไก่ปฏิเสธและให้ไปถาม นายเอ เอาเอง นอกจากนี้ นายศุภโชคยังระบุด้วยว่า ช่วงที่คุณพ่อไปใช้ชีวิตอยู่กับหญิงไก่ มีเงินติดตัวประมาณ 30 ล้านบาท จากการขาย-จำนองที่ดิน ซึ่งทางครอบครัวไม่รู้ว่าเงินตรงนี้ไปอยู่ไหนแล้ว เรื่องนี้ทำให้ฝ่ายหญิงไก่ตกใจ กล่าวว่า “….โอ้โห…ไปเอามาจากไหน 30 ล้าน…” ถ้าจะให้ใช้เงิน 30 ล้านคงไม่ได้หรอก คุยกันไม่ได้แล้ว.