จากกรณี ตำรวจ บก.น.6 นำหมายค้นปิดล้อมตรวจค้นอาคารร้านจินหลิง และอาคาร LEELA อาคาร WIP WUP CAR WASH ย่าน ยานนาวา พบนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 200 คน และยาเสพติดอีกจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา ประมาณ 13.30 น. วันที่ 28. ต.ค. ที่ สน.ยานนาวา พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ไปตรวจความเรียบร้อยการควบคุมตัวผู้ต้องหาและตู้นิรภัยจากกรณีการเข้าตรวจค้นจับกุมผับจิงหลิง พร้อมเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 71 คน ไปฝากขังต่อศาลแขวงพระนครใต้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดกลับคำให้การไม่รับสารภาพในชั้นอัยการ จึงต้องดำเนินการนำตัวไปส่งฝากขังให้เสร็จสิ้นทุกคนในวันนี้ และแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน จะเร่งทำสำนวนแนบพยานหลักฐานว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยรู้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่มั่วสุมยาเสพติด และมีพยานยืนยันตัวบุคคลของผู้ต้องหาแต่ละคน จึงเชื่อว่า การทำสำนวนส่งฟ้องในชั้นศาลจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทุกคนได้

ส่วนตู้เซฟมีทั้งหมด 5 ตู้ โดย 3 ตู้ ได้ยกมารักษาอยู่ที่โรงพัก ส่วนอีก 2 ตู้นั้นอยู่ในมาตรการควบคุมพื้นที่ภายในสถานบันเทิงก็มีความปลอดภัยพอสมควร เนื่องจากได้จัดเต้าหน้าที่ตำรวจรักษาพื้นที่ตลอดเวลา รอผู้ที่แสดงตนเป็นเจ้าของมาติดต่อเพื่อเปิดเซฟ แต่หากเกินวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะให้พนักงานของบริษัทตู้เชฟมาเปิดต่อพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อรวบรวมเป็นหลักฐานตามขั้นตอนของทางกฎหมาย ก่อนจะตรวจสอบว่า เจ้าของที่แท้จริงเป็นใคร มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ ส่วนรถหรูที่ตรวจยึดไว้ ยืนยันถ้ามีเจ้าของตัวจริง มีหลักฐานถูกต้องก็ส่งข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนว่าเป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าวว่า มาอย่างถูกต้องหรือไม่

สำหรับการสืบสวนหาตัวเจ้าของผับดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องและรวบรวมพยานหลักฐานจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีเบาะแสและข้อมูลมาจากหลายช่องทาง แต่ตำรวจต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อใช้ในการออกหมายเรียกหรือหมายจับมาดำเนินคดี

ส่วนกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ข้อมูลกลับสื่อมวลชนว่า มีนายทุนของสถานบันเทิงดังกล่าว บริจาคเงินให้กับพรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตำรวจเปิดรับข้อมูลจากทุกฝ่ายเพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการสืบสวนสอบสวนหาตัวเจ้าของที่แท้จริง และอยู่ระหว่างการหารือกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า จะดำเนินการเรียกตัวหรือขอข้อมูลจากนายสมศักดิ์มาหรือไม่

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.ฉัตรชัย พรชวลิตหิรัญ สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา ได้ควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 71 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครใต้ ในข้อหาเสพยาเสพติด ให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) โดยการทยอยเดินออกมาจากโรงพักขึ้นรถคุมขังครั้งละ 10 คน แล้วไปส่งศาลทันที จนกว่าจะครบ 71 คน ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เมื่อพบเห็นผู้สื่อข่าว ต่างนำผ้าเช็ดหน้าหรือแมสก์หรือสิ่งอื่นๆ ที่ติดมือ ยกมาบดบังใบหน้า ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย