เมื่อวันที่ 29 พ.ย. นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท CEO กองสลากพลัส พร้อมนายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความ นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อกล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด 2 คดี

นายพันธ์ธวัช เปิดเผยว่า คดีแรกเป็นการหลอกขายลอตเตอรี่ทิพย์ให้กับประชาชน ทางเว็บไซต์ที่ใช้ชื่อว่า “ดีโชติช่วง” ในราคาฉบับละ 80 บาท โดยไม่มีการคิดค่าบริการใดๆ นอกจากนี้ยังได้เสนอและเชิญชวนดาวไลน์ว่าจะให้ส่วนแบ่งฉบับละ 8 บาท ทำให้ราคาต้นทุนอยู่ที่ฉบับละ 72 บาท ซึ่งตนได้ตรวจสอบพบว่ามันไม่สามารถจะเป็นไปได้ เพราะราคา 72 บาท เป็นราคากลางที่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นอกจากนี้ยังพบว่าสลากฯ บางส่วนที่มีการขายในแพลตฟอร์มดังกลาวมีตัวเลขซ้ำกับสลากที่ทางสลากพลัสมีทั้งหมด 3 เล่ม หรือ 300 ใบ มูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท และยังมีสลากฯ ที่ปลอมตัวเลข แต่ใช้ลายน้ำเดิม หรือแม้กระทั่งมีการแอบอ้างว่าได้การรับรองจาก สคบ. ด้วย

“ระบบการขายของเว็บฯ ดีโชติช่วง มีลักษณะการขายตรง หรือ แบบแชร์ลูกโซ่แน่นอน ซึ่งต้องบอกว่าแพลตฟอร์มนี้มีมานานแล้ว แต่ช่วงหลังๆ เริ่มมามีชื่อเสียงเพราะเริ่มมีดาวไลน์มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าความเสียหายในการปลอมแปลงเอกสาร หรือขายลอตเตอรี่ทิพย์อาจจะไม่มาก แต่หากสลากฯ ที่หลอกขายไปเป็นรางวัลที่ 1 มันจะมีมูลค่าความเสียหายสูงมาก ในเบื้องต้นตนได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และปลอมแปลงเอกสารกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว” นายพันธ์ธวัช กล่าว

ส่วนคดีที่ 2 นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพปลอมเพจสลากพลัส บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก เพื่อหลอกขายสลากฯ ให้กับประชาชน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีการใช้บัญชีม้ากว่า 50 บัญชี มูลค่าความเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการอ้างชื่อตนเองไปหลอกประชาชนให้ร่วมลงทุนซื้อสลากฯ จนมีผู้เสียหาย 2 รายหลงเชื่อ สูญเงินไปรวม 3.6 ล้านบาท ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้มีมานานและตนได้แจ้งความไว้ที่ สน.ทองหล่อ ก่อนจะรายงานไปยังเพจดังกล่าวที่มีการแอบอ้างจนถูกเฟซบุ๊กแบนหรือปิดไป แต่ระยะหลังมีการโฆษณามากขึ้นทำให้แจ้งรายงานไม่ไหว จึงต้องมาพึ่งตำรวจ

“ผมมองว่านอกจากการทำงานของตำรวจแล้ว ทางเฟซบุ๊กก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องการฉ้อโกงประชาชนลักษณะนี้อย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายให้กับผู้คนจำนวนมาก และอยากเตือนประชาชนว่า หากจะซื้อลอตเตอรี่ให้สังเกตง่ายๆ ว่ายอดผู้ติดตามของสลากพลัสมีสูงถึง 4.4 แสนคน ถ้าน้อยกว่านี้ไม่ใช่เพจของสลากพลัส นอกจากนี้เวลาโอนเงินชำระค่าสลากฯ ต้องสังเกตชื่อผู้รับโอนว่าต้องเป็นในนามบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่ในนามบุคคล อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียหายที่ซื้อสลากฯ หรือได้รับความเสียหายจากการถูกแอบอ้างเป็นสลากพลัส ผมจะตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียน เพื่อรวบรวมคดีไปดำเนินการกับผู้กระทำความผิดต่อไป” นายพันธ์ธวัช กล่าว

ทั้งนี้ นายพันธ์ธวัช ได้กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ กรณีที่เจ้าตัวและพวก 4-5 คน บุกรุกเข้าไปภายในสำนักงานย่านทองหล่อช่วงก่อนหน้านี้ว่า ได้มอบหมายให้ตัวแทนของกองสลากพลัส เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุแล้วที่ สน.ทองหล่อ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ในข้อหา บุกรุก และพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้วจึงได้เรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาและเตรียมนำตัวส่งฟ้องต่อศาลในเร็วๆ นี้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา.