เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่ฝูงบิน 501 กองบิน 5 อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการเตรียมสถานที่ในโรงจอดเครื่องบิน โดยตั้งโต๊ะปูด้วยผ้าสีขาว 10 ชุด สำหรับตั้งหีบศพทหารเรือที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเรือรบหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลอ่าวไทย เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยจะมีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย
ประกอบด้วย จ่าเอกบุญเลิศ ทองทิพย์, จ่าเอกชูชัย เชิดชิด, จ่าโทธวัชชัย สาพิราช, จ่าโทสหรัฐ อีสา, จ่าตรีสถาพร สมเหนือ, จ่าตรีนพณัฐ คำวงค์, จ่าตรีศุภกิจ ทิวาลัย, จ่าตรีสิริธิติ งามทอง, พลทหารปรีชา รักษาภักดี และ พลทหารจำลอง แสนแก จากศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน อ.บางสะพาน โดยรถตู้มูลนิธิฯ กว่า 10 คัน มีรถวิทยุตำรวจทางหลวงวิ่งนำหน้าขบวนขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตและญาติ
เมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายหีบศพสีขาวคลุมด้วยธงชาติไทยลงรถ ขึ้นตั้งบนโต๊ะที่จัดเตรียมไว้ จากนั้นให้ญาติที่เดินทางมาทำพิธีทางศาสนา ก่อนนายทหารกองบิน 5 จะแบกหีบศพเดินผ่านทหารกองเกียรติยศขึ้นเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศ ลำเลียงร่างไปยังสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง จากนั้นจะเคลื่อนร่างทั้ง 10 นาย ไปยัง ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในเวลา 17.00 น. ของวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ได้ส่งร่างจ่าเอกชูชัย เชิดชิด หรือน้าชู ที่พบร่างในเขตน่านน้ำ จ.ชุมพร มีตำแหน่งเป็นพ่อครัวหรือสหโภชน์ของเรือรบหลวงสุโขทัย ที่แฟนเพจเฟชบุ๊กชื่อ kritsaba Sripariyuth ได้โพสต์ข้อความโดยเขาระบุว่า “ขอแสดงความอาลัย แด่ “น้าชู” สหโภชน์ ที่แสนดีของกำลังพลสุโขทัยนายชู (จ.อ.ชูชัย เชิดชิด) มีหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้ทุกคนประจำเรือโดยจะต้องตื่นก่อนนอนทีหลังอยู่ตลอดเวลาเพราะหน้าที่ของหัวหน้าคนครัวเป็นเช่นนั้น…แต่ถึงเป็นเช่นนั้นน้าชูก็ไม่เคยปริปากบ่น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ แม้ว่าได้น้าชูจะเมาเรือหนักขนาดไหนอาหารก็ยังพร้อมสำหรับทุกคนเสมอจนถึงวันแห่งความโศกเศร้า…น้าชูได้จากไปพร้อมกับเรือที่ตนเองรักจนวาระสุดท้าย”…
