เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณซอยประเสริฐอิสลาม 25 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบลุงกับป้าซึ่งเคยทำอาชีพรับจ้างและเก็บขยะขวดพลาสติกขายแต่ตอนนี้ถูกห้ามไม่ให้ทำเพราะกลัวติดเชื้อโควิด ทำให้สภาพชีวิตความเป็นอยู่แร้นแค้น ค้างค่าน้ำค้าไฟค่าเช่าบ้านหลายเดือน บางวันไม่มีอะไรกินต้อง นำข้าวมาคลุกเกลือ สลับกับมะพร้าวขูด ภายหลังพบสามี-ภรรยา นายภัฏพงษ์ เรืองเครือ อายุ 66 ปี ตาขวาบอด 1 ข้าง เป็นโรคความดันสูง ส่วน น.ส.บรม สอนเพ็ง อายุ 59 ปี ภรรยานายภัฏพงษ์ ป่วยเป็นเป็นโรคหัวใจ น้ำท่วมปอด เคยหัวใจล้มเหลวมาแล้วหลายครั้ง แต่ปั๊มหัวใจฟื้นขึ้นมาได้

โดย นายภัฏพงษ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้เดือดร้อนหนักจากพิษโควิด-19 ไม่มีงานทำ เคยคิดจะฆ่าตัวตาย อยากร้องขอหน่วยงานให้ช่วยเหลือเนื่องจากบ้านที่เช่าอยู่กำลังจะโดนเจ้าของบ้านไล่ออกจากบ้านแล้ว เพราะค้างค่าเช่ามานาน 7 เดือน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟเป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาท ทั้งครอบครัวมีเงินติดกระเป๋าอยู่เพียง 10 บาททุกวันนี้ต้องไปขอข้าวเพื่อนบ้านกิน บางวันไม่กล้าขอ ต้องกินข้าวคลุกกับเกลือที่ไปขอเพื่อนบ้านมา บางวันกินข้าวกับมะพร้าวขูดเอามาคลุกกินกับข้าวเปล่า อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเรื่องค่าเช่าบ้านที่กำลังจะถูกยึดในวันนี้ ตนได้แต่ยกมือไหว้ขอร้องไว้ ถ้าถูกยึดก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนอายุมากแล้ว ถ้าใครที่มีจิตศรัทธาอยากทำบุญช่วยเหลือ 2 สามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาปากเกร็ด ชื่อบัญชี นายภัฏพงษ์ เรืองเครือ เลขที่บัญชี 1230257454

นายภัฏพงษ์ เปิดเผยว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ ตอนนี้มีโรคโควิด-19 จึงไม่ได้ขับรถมา 5 เดือนแล้ว ผู้โดยสารก็ไม่ค่อยมี ก่อนหน้านี้ตนโดนสายรัดกระโปรงรถดีดเข้าที่ตาทำให้ตาขวาบอด มองเห็นแค่ลาง ๆ และรักษาตัวเองอยู่ประมาณ 8 เดือน ผ่าตัดตามาแล้ว 4 ครั้ง ตอนนี้ตนไม่มีเงินสักบาทเดียว และไม่มีข้าวกินไม่รู้ว่าวันนี้จะกินอะไร ทุกวันนี้ต้องกินข้าวเปล่ากับเกลือ มา 2-3 เดือนแล้ว แต่บางทีก็มีเพื่อนข้างห้องนำข้าวปลามาให้กินบ้าง ชีวิตลำบากมากอยากได้ของกินของใช้มาประทังชีวิตก่อน ปกติเคยไปเก็บขวดน้ำมาขาย 6 กิโลกรัม จะได้เงินมา 60 บาท นำไปเติมโทรศัพท์เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีใครช่วย

น.ส.บรม สอนเพ็ง อายุ 59 ปี ภรรยา เล่าว่า รู้สึกท้อมากบางครั้งไปนั่งร้องไห้คนเดียว ลำบากมากไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไมรู้จะทำอย่างไรเพราะลูกก็ลำบากเหมือนกัน บางทีอยากฆ่าตัวตายแต่กลัวบาปกรรม เหนื่อยใจมาก ๆ และมีโรคหัวใจร่วมด้วย ตอนนี้ได้แต่ทนเอา เพราะตัวเองก็อ่านหนังสือไม่ออกจะไปทำงานที่ไหนก็ไม่ได้ นานๆทีจะมีงานเก็บกวาดห้องเข้ามาเดือนละ 1 ครั้ง ต้องเก็บขวดค้นขยะขายแต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว เพราะห้องพักที่เข่าอยู่ขอร้องให้ตนเลิกไปคุ้ยขยะกลัวเราจะติดเชื้อโควิด-19 ต้องอยู่บ้านเฉยๆ

ด้านเพื่อนข้างบ้าน เล่าว่า ตนรู้จักลุงกับป้ามาประมาณ 20 ปีแล้ว ตอนแรกทั้งสองอยู่กินปกติ แต่พอช่วงโควิด-19 ก็เริ่มแย่ลงทุกวัน บางครั้งตนจะซื้อข้าวซื้อผลไม้มาให้เพราะความสงสาร ลุงจะโดนตัดน้ำตัดไฟวันนี้ลุงกับป้าต้องยกมือไหว้ขอค้างไว้ก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยโดนตัดไปแล้ว โดยห้องแถวนี้ครอบครัวใครครอบครัวมันตนก็ช่วยพอที่ช่วยได้เพราะช่วงนี้หาเงินยากจริง ๆ ลุงกับป้าเป็นคนขยันมากๆหาทุกอย่างทำเพื่อแลกเงินตลอดหาขวดขาย แต่ทางห้องแถวขอห้ามเพราะเป็นช่วงโควิด กลัวลุงกับป้าจะติด ถ้าวันไหนลุงไม่มีกินก็จะมาขอตนก็คอยแบ่งให้ อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือหน่อย บางครั้งเห็นเขาอดเราน้ำตาไหลอดช่วยเขาไม่ได้จริงๆ