เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) ครั้งที่ 1/2566 ถึงกรณีการกำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (10 ม.ค.) นี้ ให้รัฐมนตรีทุกคนให้ความร่วมมือตอบญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ว่าสุดแล้วแต่ทางสภาจะว่าอย่างไร โดยขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลที่จะต้องหารือกัน ส่วนจะเป็นเมื่อใดนั้น นายกรัฐมนตรีย้อนถามกลับว่าสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วไม่ใช่หรือ ขึ้นอยู่กับสภา โดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลตกลงกัน แต่ตนบอกว่าวันเวลาแบบนี้ อย่าใช้เวลามากนักเลย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ไม่ใช่เป็นการต่อสู้ทางการเมือง บ้านเมืองกำลังมีปัญหา เพราะฉะนั้นต้องดูว่าปัญหาเราแก้ไขอะไรไปแล้วบ้าง หากพูดกันแต่เรื่องไม่ดีมากนัก ทุกอย่างก็รวนไปหมด หาสิ่งดีๆกันให้เจอบ้างสิ มีจำนวนมาก ส่วนนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงเองในทุกประเด็นหรือไม่นั้น นั่นมันเรื่องของตน เป็นการตัดสินใจของตนในสภาฯ ก่อนจะกล่าวว่า อย่าถามคำถามล็อกตนแบบนี้ ตนตอบไม่ได้หรอก เพราะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะตอบหรือไม่ตอบ เพราะหลายอย่างเป็นสิ่งที่อภิปรายกันมาในหลายปีแล้ว เวลาตนพูดก็ไม่ฟัง

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐแล้ว จะกังวลหรือไม่เนื่องจากไม่มีองครักษ์พิทักษ์เหมือนการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ชักสีหน้า กล่าวว่า “ไม่เกี่ยว ผมทำประโยชน์เพื่อคนส่วนรวม คือใครจะพิทักษ์ไม่พิทักษ์ก็ตามใจก็แล้วแต่ แต่ผมถือว่าเป็นบทบาทและหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคนต้องช่วยกันเอาบ้านเมืองเป็นหลักไว้ก่อน”
เมื่อถามว่ายินดีจะตอบประเด็นการอภิปรายแม้จะซ้ำในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนว่า ชอบถามอะไรกลับไปกลับมา
เมื่อถามถึงกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งข้อสังเกตถึงการจัดงานเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ชี้แจงไปแล้วในเรื่องของทางกฎหมายก็มีการปรึกษากับทางกกต.อยู่แล้วว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้
เมื่อถามว่า วันนี้ยังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าจะอยู่ครบเทอมในการบริหารประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วไม่ใช่หรือว่าทุกอย่าง ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ ตนจะอยู่ต่อหรือไม่อยู่ต่อ

เมื่อถามย้ำว่าจะอยู่บริหารประเทศครบเทอมใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่เพื่ออะไรถ้าต้องอยู่ ต้องอยู่ให้ครบถ้ามันจำเป็นต้องอยู่ก็ต้องอยู่ให้ครบ ส่วนจะครบถึงวันที่ 23 มี.ค.66 หรือยุบสภาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ ถามกลับสื่อฯว่า คำถามแบบนี้ประชาชนได้อะไร สื่อฯจึงตอบกลับว่าประชาชนก็รออยู่ เพื่อเตรียมเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เลือกตั้งก็คือเลือกตั้ง ให้เป็นไปตามกระบวนการเลือกตั้งใช่ไหมเล่า
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ส.ส.ก็รออยู่ เพื่อรอความชัดเจนในการสังกัดพรรคการเมืองใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็เห็นว่าเป็นอย่างนี้มาตลอด ผมก็ดูให้อยู่แล้ว วันเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เขาจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งการเมืองก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นในสมัยนี้เมื่อไหร่ พร้อมย้ำว่ามันก็ทันของเขาอยู่แล้ว ผมไม่ทำให้เขาเสียหายอยู่แล้ว ทุกคนมีหลักการของตัวเองอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
เมื่อถามว่า จะเริ่มทำกิจกรรมร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนก็ต้องทำถูกกฎหมายอยู่แล้ว อย่าลืมว่าตนก็มีบทบาทเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องระมัดระวังอย่างที่สุดก็แล้วกัน อะไรที่เป็นงานของรัฐบาลงานของนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำต่ออยู่แล้ว เรื่องของพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค ก็เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคดูแลอยู่แล้ว ตนให้เครดิต
เมื่อถามถึงกระแสตอบรับหลังเปิดตัวร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเช่นไรนั้นพลเอกประยุทธ์ ย้อนถามกลับสื่อมวลชนว่า “ก็ต้องถามเธอสิ มาถามอะไรผม” เมื่อถามย้ำว่ามี ฟีดแบ็คอะไรกลับมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนก็อ่านในโซเชียล ในสื่อที่พูดกันอยู่ทุกวันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจต้องชิงตำแหน่งแข่งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค มีความหนักใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามกลับว่า “ไปเกี่ยวอะไรกับท่านล่ะ”
เมื่อถามย้ำว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจะต้องมาแข่งกันทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ตนไม่เคยมีปัญหาอยู่แล้ว หลายคนก็พูดว่าต้องมาเคลียร์ใจกัน ตอนเช้าก่อนเข้าห้องประชุม ครม. ห้องนั้นเป็นห้องที่ก่อนการประชุม ครม.ใครจะเข้ามาก็ได้ ไม่ใช่ว่าตนจะต้องไปเคลียร์ จะเคลียร์อะไรกันนักหนา คนเราถ้ามีความผูกพันกันก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง ท่านเข้าใจตนก็เข้าใจ ต่างคนต่างเข้าใจแล้วมันจะอะไรกันนักหนา

เมื่อถามว่าก่อนที่จะตัดสินใจไปร่วมงานกับพระรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจำเป็นจะต้องมีเสียง ส.ส.ในมือ 25 เสียงเพื่อเสนอแคนดิเดตเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ชี้ไปทางสื่อและกล่าวว่า ก็รู้กันอยู่แล้ว รู้ดีกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ
เมื่อถามว่า การที่นายกฯ ไปเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความมั่นใจว่าพรรคจะได้ ส.ส.เกิน 25 ที่นั่งใช่หรือ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับประชาชน อยู่ที่ประชาชน จะได้ ส.ส. 5 คน 10 คน 20 คน หรือ 25 คน หรือเท่าไหร่ตนไม่รู้ จะไปรู้ใจประชาชนได้อย่างไร ขอให้ไปถามประชาชน
เมื่อถามย้ำว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาก็พูดแล้วว่าคุยกันทุกวันนั่นแหละ การทำงาน
เมื่อถามย้ำว่า ได้คุยกันเรื่องการจับมือทำงานหลังการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงตรงนั้นวันหน้าค่อยว่ากันอีกที วันนี้เอาให้มันผ่านพ้นกันไปก่อน
ช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ อยากจะพูดถึงการเมืองอะไรในขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบทันทีว่าไม่อยากพูด และเดินหันหลังกลับไป ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะถามทายทิ้งท้ายเพราะอะไร นายกรัฐมนตรีตอบสั้นๆ ว่า”เพราะเบื่อ” สื่อมวลชนจึงถามว่าย้ำว่าเบื่ออะไร นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “เบื่อคำถามเธอไง” ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที.