เมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. ลงพื้นที่ย่านเยาวราช ภายหลังในช่วงเช้าพล.อ.ประยุทธ์ ได้พักผ่อนออกรอบตีกอล์ฟกับกลุ่มเพื่อนสนิทเป็นการส่วนตัว

ทั้งนี้ พรรค รทช. ได้แจ้งปรับเปลี่ยนกำหนดการเดิมของแกนนำพรรค ว่าเมื่อแกนนำมาเดินทางถึงเยาวราชพบกันที่จุดแรกที่นัดพบที่ I’m Chinatown ห้างและโรงแรมใกล้สถานี MRT วัดมังกร ได้เปลี่ยนเป็นพบกันที่ร้าน TORA CHA ในซอยตรงข้ามมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ซึ่งคาดว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เนื่องจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีกำหนดเดินทางมาจุดแรกด้วยเช่นกันในเวลา 17.00 น. รวมถึงในจุดที่สอง มีกำหนดการไปนมัสการเจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งตรงกับพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตาม เวลา 17.20 น. พรรครทสช.ได้มีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง โดยนายพีระพันธ์ุ และ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำ รทสช. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. นำแกนนำและสมาชิกพรรค ไหว้ศาลเจ้าพ่อไต่ฮงกงก่อ จากนั้นแกนนำ รทสช.เดินทางมาเข้ามายังวัดมังกรกมลาวาส( วัดเล่งเน่ยยี่) เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ ขบวนหาเสียงของนายพีระพันธ์ุ สวนกับขบวนหาเสียงของนายพิธา ตรงปากประตูวัดเล่งเน่ยยี่ ซึ่งได้หันไปโบกมือทักทายกัน โดยสมาชิกทั้งสองพรรค ได้ตะโกนเชียร์พรรคตัวเองอย่างไม่ยอมกัน ทั้งรวมไทยสร้างชาติ สู้ๆพรรค ก้าวไกล สู้ๆ ทำเอาประชาชนที่เดินไปมา ต่างหัวเราะชอบใจ

ทั้งนี้ มีรายงานว่าสาเหตุพล.อ.ประยุทธ์ เดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนด เรื่องจากไม่มีรถนำขบวน อีกทั้งพลขับ ก็ไม่ใช่พลขับประจำ เป็นพลขับเก่าแก่ที่เคยใข้กันมาก่อน ทำให้หลงทาง เพราะถนนเยาวราชช่วงตรุษจีนมีการปิดถนน ทำให้เข้าไม่ถูกทาง ถึงขนาดตำรวจในพื้นที่ต้องไปขับนำเข้ามา โดยวันเดียวนี้พล.อ.ประยุทธ์ใช้รถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร จากปกติใช้รถประจำตำแหน่ง ยี่ห้อเมอร์เซเดส เบนซ์ รุ่น S600 Guard sedan long หมายเลขทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร และไม่มีรถนำขบวน สำหรับการรักษาความปลอดภัย ไม่ได้ใช้ทีมรปภ.ปกติ แต่ใช้ทีมรปภ.ของพรร รทสช. ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนมาทำหน้าที่ แต่ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหารนอกเครื่องแบบมาอารักขาอยู่ห่างๆ

ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) ด้วยสีหน้าปกติ เมื่อมาถึงวัด ประชาชนได้ส่งเสียงเชียร์ นายกฯสู้ๆ แต่พล.อ.ประยุทธ์มีสีหน้าเรียบเฉย จากนั้นเวลา 18.15 น. ภายหลังกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พล.อ.ประยุทธ์เยี่ยมชมตลาดเก่าเล่งบ๊วยเอี๊ยะ และย่านการค้า ร้านอาหารถนนเยาวราช โดยมีกองเชียร์ส่งเสียงเชียร์เป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างพล.อ.ประยุทธ์เดินพบปะประชาชน ได้แวะเเข้าไปทักทายบ้านประชาชนถึงในบ้าน พร้อมกับทำมือสัญลักษณ์มินิฮาร์ท โบกมือทักทายและกล่าวว่า “ขอให้มีความสุข ขอให้ร่ำรวยทุกคนขอให้ช่วยกัน” โดยพล.อ. ประยุทธ์ยังได้เล่นป๋องแป๋ง ทั้งนี้ในช่วงเดิน ทักทายประชาชนอากาศร้อน ทำให้พล.อ. ประยุทธ์ได้ถอดสูทออก

แต่ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ยืนให้สัมภาษณ์ ปรากฎว่ามีหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งได้ตะโกนเสียงดังใส่ว่า “ลุงตู่เมื่อไหร่จะลาออก”

โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า วันนี้ตั้งใจจะมากราบไหว้พระวัดมังกรกมลาวาส( วัดเล่งเน่ยยี่) และจะมาดูว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างไร ตนได้รับรายงานว่ามีหลายอย่างกระเตื้องขึ้น ในทุกระดับทุกภาค การท่องเที่ยวมีมากขึ้นมีการจองที่พักและโรงแรม วันนี้จึงมาดูที่เยาวราชเพราะมีการจับจ่ายใช้เงินกันหลายล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน เรื่องนี้ไม่ได้ใช้เวลาในระยะสั้น เราพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าเราทำได้หรือไม่ ซึ่งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 หลายคนไม่เชื่อว่าเราจะทำได้ วันนี้เราทำได้และทำให้เห็น สิ่งที่จะเกิดต่อไปจะต้องดูว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไรต้องมีเหตุผล ไม่ใช่พูดแล้วจะเกิดขึ้นมามันต้องใช้เวลาพอสมควรอย่างที่ทำมา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขออวยพรให้ประชาชนทุกคน ทั้งคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทย มีความสุขความเจริญและสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

เมื่อถามว่าในช่วงที่ไหว้พระ ได้ขอพรอะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าได้ขอพรให้ประชาชนทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงสามารถพัฒนาตนไปข้างหน้า เพื่อให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่ตนขอพรทุกครั้งนอกจากนี้ยังขอพรให้ทำงานประสบความสำเร็จและปลอดภัย ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธตอบคำถามกรณีผู้สื่อข่าวถามว่าจะลงพื้นที่เช่นนี้ทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรือไม่.

ส่งจาก iPhone ของฉัน