เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 66 นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) เริ่มสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าในพื้นที่มืดสนิท ทางทิศเหนือ บริเวณกลุ่มดาวยีราฟ (Camelopardalis) ตั้งแต่เวลาประมาณ 22.00 น. ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือน ก.พ. เป็นช่วงที่ดาวหางดวงนี้เข้าใกล้โลกมากที่สุด (ระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์) จะสามารถสังเกตได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าจนกระทั่งรุ่งสางก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นของวันถัดไป และคาดว่าจะมีความสว่างเพิ่มมากขึ้นอีกเล็กน้อย

ผู้สนใจสังเกตดาวหางด้วยตาเปล่า ให้พยายามสังเกตวัตถุท้องฟ้าที่มีลักษณะปรากฏเป็นฝ้าจาง ๆ หรือ ดาวดวงหนึ่งที่ไม่ได้คมชัดเช่นดาวดวงอื่น หากใช้กล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาช่วยสังเกตการณ์ จะช่วยยืนยันและเห็นดาวหางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่อบันทึกภาพดาวหางดวงนี้ผ่านกล้องถ่ายภาพด้วยการเปิดหน้ากล้องนาน ๆ จะสามารถสังเกตเห็นหางและสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของดาวหางดวงนี้ได้ ซึ่ง ณ วันที่ 28 ม.ค. 66 ดาวหางได้ปรากฏหางให้เห็นจำนวน 3 หาง ได้แก่ “หางไอออน” มีลักษณะเป็นเส้นตรงและยาวที่สุด “หางฝุ่น” มีลักษณะฟุ้งเป็นแถบในทิศทางเดียวกับหางไอออน และสุดท้ายคือ “Antitail” อยู่ในทิศตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ซึ่งจะเริ่มสังเกตได้ยากขึ้น เนื่องจากหางชนิดนี้จะปรากฏให้เห็นในช่วงเวลาสั้นๆ เฉพาะช่วงที่ดาวหางโคจรอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ และโลกของเราโคจรผ่านหรือเข้าไปใกล้กับระนาบวงโคจรของดาวหางเท่านั้น ดังนั้น เมื่อดาวหางเข้าใกล้โลกมากขึ้น ผู้สังเกตการณ์บนโลกจึงอาจไม่สามารถสังเกตได้

ดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) เป็นดาวหางคาบยาว โคจรรอบดวงอาทิตย์หนึ่งในรอบใช้เวลาประมาณ 50,000 ปี ค้นพบในช่วงต้นเดือนมี.ค. 65 โดยเครือข่ายกล้องตรวจท้องฟ้ามุมกว้าง Zwicky Transient Facility ในช่วงแรกวัตถุนี้มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ 17.3 ก่อนจะสว่างขึ้นจนนักดาราศาสตร์ทราบว่าเป็นดาวหาง และเป็นเรื่องน่ายินดีที่มีความสว่างปรากฏเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถสังเกตด้วยตาเปล่าได้ในขณะนี้