ทำให้ทุกพรรคการเมืองต้องขยับกลยุทธ์ ปรับแผนเลือกตั้งทันที โดยดูจากผลการเลือกตั้ง ส.ก. มาเป็นองค์ประกอบด้วย เพราะการเลือกตั้งสนาม กทม. รอบนี้ มีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น 3 เขต จากเดิม 30 เขต มาเป็น 33 เขต ถือว่ามากที่สุดในประเทศ อีกทั้งกลยุทธ์-นโยบาย ในการหาเสียง ก็ต้องเป็นเฉพาะกลุ่มด้วย จะมาใช้นโยบายภาพรวมแบบทั่วประเทศคงไม่ได้

ซึ่งจากทุกสำนักโพล ทั้งโพลพรรคการเมือง-โพลหน่วยงานราชการ และ โพลลับ พบว่า 2 พรรคการเมืองสูสีกัน คือพรรค เพื่อไทย และ ก้าวไกล ที่มีฐานเสียง-กลุ่มแฟนคลับ ที่พร้อมจะเทให้ผู้สมัคร ส.ส. ของ 2 พรรคนี้ ล่าสุดพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ครบทั้ง 33 เขต และเตรียมเปิดนโยบายลอตใหม่ หมัดเด็ดหลังยุบสภา ขณะที่พรรคก้าวไกล ก็ใช้ผลจากเวทีเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.152 เรื่อง “ทุนสีเทา-ปมทุจริต” มาทุบขยายผลพรรครัฐบาลในการหาเสียงรอบนี้

ส่วน ทีมมวยรอง ในสนาม กทม. โดยเฉพาะพรรคการเมือง ของ “2 ป.”  ที่ล่าสุด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คิกออฟวันวาเลนไทน์ 14 กุมภา พาบรรดาว่าผู้สมัคร ส.ส.กทม. ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย ขึ้นรถแห่ประเดิมที่ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งเป้ายึด ส.ส.กทม. ไม่ต่ำกว่าเดิมคือ 12 ที่นั่ง โดยมี “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน และ “จั๊ม” สกลธี ภัททิยกุล ที่เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งล่าสุด ได้มา 230,455 คะแนน เป็นหัวหน้าทีม กทม. อีกทั้งมี ส.ส.กทม. ยืนพื้นไว้แล้ว 1 คน คือ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม.

ขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ มี ส.ส.กทม. ยืนพื้นไว้แล้ว 2 คน คือ “โอ๋-บางกะปิ” น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ และนายประสิทธิ์ มะหะหมัด ขณะที่หัวหน้าทีม กทม. ขึ้นตรงกับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค แล้วยังมีทีมหนุนอย่าง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. “ชัช เตาปูน” ชัชวาลล์ คงอุดม ที่ปรึกษานายกฯ และที่สำคัญยังมีคะแนนป๊อปปูลาร์ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ในกำมืออีกส่วนหนึ่ง เพราะในการเลือกตั้ง ปี 62 สนาม กทม. ของพรรคพลังประชารัฐ มาพลิกในช่วงโค้งสุดท้าย หักปากกาเซียนที่ไม่ได้ ส.ส. แม้แต่ที่นั่งเดียว แต่กลับได้มาถึง 12 ที่นั่ง เพราะสโลแกนสุดท้าย “เลือกความสงบ…จบที่ลุงตู่”

ส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้าทีม ก็ต้องสู้เต็มที่ เพราะปี 62 สูญพันธุ์ไม่ได้ ส.ส. แม้แต่คนเดียว อีกทั้งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 254,647 คะแนน ได้มาเป็นอันดับ 2 ดังนั้นศึกเลือกตั้ง กทม. รอบนี้ ต้องปักธงให้ได้ มีเท่าไหร่ ใส่ให้หมด เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

ส่วน พรรคภูมิใจไทย รอบนี้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ก็ขอประเดิม เจาะไข่แดง เมืองหลวง ปักธงขอโอกาสพรรคเซราะกราว ถึงขนาดลงทุนนั่งรถตุ๊กๆ ต้อนรับ “บี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หัวหน้าทีม กทม. ที่พา 5 อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ มาอยู่ค่ายสีน้ำเงิน รอบนี้ ภท. ได้อดีต ส.ส.กทม. และ ส.ส.กทม. ปัจจุบัน อยู่ในมือรวมถึง 8 คน พร้อมเปิดปราศรัยย่อย เย็นวันศุกร์-วันอาทิตย์ ต่อยอดนโยบายด้าน “สาธารณสุข-คมนาคม” เป็นจุดขาย

ผู้สมัคร ส.ส. มีคุณภาพ-นโยบายโดนใจ ก็ถึงเวลา วัดใจ “คน กทม.” ว่าจะเลือกพรรคไหน เป็น “รัฐบาล”