จากกรณี นายอำนาจ กลิ่นสาลี อายุ 70 ปี หรือ “ลุงแบน” พลเมืองดีที่เคยออกเรือช่วยตามหาร่างดาราสาว “แตงโม ภัทรธิดา” ตลอดหลายวันจนกระทั่งพบร่างดาราสาวที่เป็นข่าวไปเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินให้กับ “ลุงแบน” ยอดเงินเกือบ 400,000 บาท ด้วยความที่เรือลำเดิมมีสภาพทรุดโทรมและเก่าเพราะใช้มาเป็นเวลานาน จึงได้สั่งต่อเรือใหม่ขนาดความยาว 10 เมตร กว้าง 2 เมตร ในราคา 240,000 บาท เพื่อจะนำมาใช้เป็นที่อยู่อาศัย โดยติดต่อผ่านคนรู้จักคนหนึ่งเป็นคนกลางให้ทำการต่อเรือที่อู่ต่อเรือแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 และทางอู่ต่อเรือดังกล่าวแจ้งว่าจะแล้วเสร็จ แต่จนถึงปัจจุบันนี้ผ่านมาจะเกือบ 1 ปี แล้ว ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เรือลำใหม่แต่อย่างใด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ท่าเรือพิบูลสงคราม1 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี “ลุงแบน” ได้มาอธิษฐานต่อรูปภาพของ “น้องแตงโม นิดา” ขอให้ช่วยเหลือเรื่องการต่อเรือ เนื่องจากเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำเรือให้ตามที่ว่าจ้าง ภายหลังเปิดเผยว่า เรือที่สั่งทำไปนานมากแล้ว อีกฝ่ายไม่ยอมให้ดูแบบ รู้สึกเป็นกังวลมาก พอไปหาก็บอกว่าอีก 7-8 วันจะเสร็จ ขณะนี้ผ่านมาเกินครึ่งเดือนหลังจากไปหาครั้งสุดท้าย ก็ยังไม่ติดต่อมาว่าเสร็จแล้วหรือไม่ ตอนนี้เหลืออีกเพียง 2 เดือน ก็จะครบ 1 ปี ที่ว่างจ้างต่อเรือแล้ว ตนอยากได้เรือมาใช้อาศัยนอน สำหรับค่าจ้างให้ไปแล้ว 230,000 บาท หากจ่ายค่าของอื่น ๆ ไป ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ก็อยากให้ว่าราคามา จะได้เอาเรือมาใช้งาน

ด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ “ทนายโป้ง” กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถ้าในเรื่องของทางแพ่ง หากคนที่รับจ้างเขามีอาชีพนี้โดยตรง ไม่ได้เกิดจากการหลอกลวง ไม่ได้เกิดจากมิจฉาชีพ เขาเรียกว่าเป็นการจ้างต่อเรือให้ทำเรือ หรืออะไรให้ และได้จ่ายค่าจ้างอะไรไปแล้ว ก็รอว่าผลของการจ้างจะสำเร็จเสร็จเป็นงานหรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จเสร็จเป็นงานก็มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องเรียกเงินค่าจ้างทำสิ่งของนั้นกลับคืนมาได้ พร้อมด้วยดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด

แต่หากคนที่มารับจ้าง ไม่ได้มีอาชีพหรือมีอาชีพก็แล้วแต่ แต่ถ้าไม่มีเจตนาที่จะทำเรือให้ลุงเขา มีการหลอกลวงว่าจะทำให้ เห็นว่าราคา 240,000 บาท ลุงจ่ายไปถึง 230,000บาท แต่ก็ยังไม่ทำให้แกก็ไปดู ไปตาม ก็ยังไม่เห็นวี่แววที่จะสร้างเรือให้เสร็จเป็นลำอย่างที่ตกลงกันไว้ ก็มีสิทธิ์เข้าข่ายเกี่ยวกับ “การฉ้อโกง” ถือว่าเป็นการหลอกลวง ปกปิดข้อความจริง ทรัพย์สินก็คือเงินที่จะเอาไปทำเรือให้กับลุง

“…เรื่องนี้ถ้าเป็นเรื่องของทางแพ่งก็คือ เป็นเรื่องของ การผิดสัญญาจ้างทำ แต่ถ้าเกิดไม่มีเจตนาที่จะทำให้ลุงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เป็นการหลอกลวงเอาข้อความเท็จมากล่าว แล้วได้ทรัพย์สินของลุงไป ก็จะเป็นเรื่องของ การฉ้อโกง…” ทนายโป้ง กล่าว