เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล, พ.ต.อ.พัฒนา พัฒนชัย, พ.ต.อ.ล้ำพันธุ์ พรรธนประเทศ รอง ผบก.ทท.1 สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ทท.1, พ.ต.ท.นิมิตร จรรยาลักษณ์ สว.กก.1 บก.ทท.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทท.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.วิภาวดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี และ นางสาวธัญพิมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี และ น.ส.เกวลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี และ นางศิริวิมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นไกด์ ในข้อหา “ไม่ติดบัตรประจำตัวมัคคุเทศก์ฯ ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ว่าด้วยเรื่องมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ การแต่งกาย การรักษามารยาท ความประพฤติและการตรวจสุขภาพของมัคคุเทศก์ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดมัคคุเทศก์ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด ตามวรรคหนึ่ง และต้องติดใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ตลอดเวลาที่ทำหน้าที่มัคคุเทศก์ตามลักษณะที่คณะกรรมการประกาศกำหนด”

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท. ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบบริเวณท่าเรือ ท่าช้าง และย่านราชดำริ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรม พบผู้ถูกจับทั้ง 4 ราย เดินนำกลุ่มนักท่องเที่ยวสัญชาติจีน เข้ามายังบริเวณดังกล่าว จึงได้แสดงเพื่อขอทำการตรวจสอบพบว่าทั้ง 4 รายนั้น ไม่มีบัตรมัคคุเทศก์ติดอยู่ให้เห็นเด่นชัด จึงได้ทำการสอบถาม โดยอ้างว่าตนนั้นปฏิบัติหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ประจำกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนจริง แต่ไม่ได้นำบัตรมัคคุเทศก์ออกมาติดตัว ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ผู้ถูกจับเป็นมัคคุเทศก์จริง แต่ในขณะนั้นไม่ติดบัตรประจำตัว จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์ของผู้ถูกจับนั้นเป็นความผิด จากนั้นได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย

เบื้องต้นให้การรับสารภาพจึงนำตัวทั้ง 4 ราย ส่งพนักงานสอบสวนในเขตพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.