สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง เผยแพร่แถลงการณ์ของสำนักงานคณะผู้แทนถาวรเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ว่า การที่ นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น “สุมไฟความขัดแย้ง” ด้วยการนำประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนของเกาหลีเหนือ เข้าไปหารือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


นอกจากนั้น การที่รัฐบาลวอชิงตันเป็นผู้เสนอเรื่องนี้ ถือเป็น “การท้าทายอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตย” ของเกาหลีเหนือ เนื่องจากเกิดขึ้นระหว่างสหรัฐซ้อมรบร่วมประจำปีกับเกาหลีใต้ ที่ใช้ชื่อว่า “ฟรีด้อม ชิลด์” ระหว่างวันที่ 13-23 มี.ค.นี้ และเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างทั้งสองประเทศ นับตั้งแต่การซ้อมรบ “โฟล อีเกิ้ล” เมื่อปี 2561


ขณะที่ กองทัพสหรัฐนำเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ บี-1บี ขึ้นทำการฝึกซ้อมร่วมกับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 และเอฟ-35 ของเกาหลีใต้ เหนือคาบสมุทรเกาหลี เมื่อวันอาทิตย์ โดยเป็นการฝึกซ้อมที่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจฟรีด้อม ชิลด์ และเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลายังไม่ถึง 1 เดือน หรือนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องบินบี-1บี ของสหรัฐ ปรากฏตัวเหนือคาบสมุทรเกาหลี


อนึ่ง ก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง เกาหลีใต้รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ ( เอสอาร์บีเอ็ม ) อย่างน้อย 1 ลูก ออกจากฐานยิงในเขตตงชาง ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ โดยขีปนาวุธเดินทางได้เป็นระยะทางไกลประมาณ 800 กิโลเมตร ก่อนทำลายเป้าหมายจำลองได้อย่างแม่นยำ.

เครดิตภาพ : REUTERS