เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 3 ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี นายสุเทพ สังข์ศิริ อายุ 50 ปี สารวัตรกำนัน ต.ไร่ใหม่พัฒนา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ร้องเรียนว่า น.ส.พัชราวลัย สังข์ศิริ อายุ 30 ปี ลูกสาว และนางผ่อง สังข์ศิริ อายุ 70 ปี มารดา ขี่รถจักยานยนต์กลับบ้านพัก บนถนนภายในหมู่บ้านหนองเอื้อง-บ้านทุ่งขาม หมู่ 6 ต.เขากระปุก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แล้วถูก อปพร.อบต.แห่งหนึ่ง อายุ 40 ปี เมาแล้วขับรถกระบะเสียหลักพุ่งสวนเลนชนประสานงา ร่างกระเด็นเสียชีวิตคาที่ทั้ง 2 ราย ผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 252 มิลลิกรัม เกินกว่ากฎหมายกำหนด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ คดียังไม่คืบหน้า

นายสุเทพ เล่าว่า มีเพียงเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ร้อยเวรเจ้าของคดีนัดทั้ง 2 ฝ่าย มาไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.ท่าไม่รวก พื้นที่รับผิดชอบ โดยฝั่งคนขับรถกระบะไม่มา อ้างว่าลืม ร้อยเวรจึงแจ้งไปว่า หากหนีก็ติดคุก 20 ปี ตนจึงถามร้อยเวรว่า ทำไมถึงไม่มีการจับกุม ร้อยเวรแจ้งว่าจับกุมไม่ได้ เหตุการณ์ไม่ซึ่งหน้า อีกทั้งผลตรวจวัดแอลแอลกอฮอล์ยังไม่ออก แต่หลังจากนั้นผลแอลกอฮอล์ออกแล้ว ได้นัดไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง โดยคนขับกระบะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะทางครอบครัวตนจัดงานศพ 7 วัน คนขับกระบะก็ไม่เคยมาร่วมงานแม้แต่วันเดียว ไม่เคยเข้ามาดูแลพูดคุยหรือเยียวยาครอบครัวแต่อย่างใด ได้แต่ส่งคนรู้จักนำพวงหรีดมาให้ และคุยว่าจะเอาเงินมาให้จำนวนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีกับคนขับกระบะ

นายสุเทพ เล่าอีกว่า ตนยังติดใจอีกว่า ได้เคยให้ปากคำกับร้อยเวรไปว่า ลูกสาวเป็นคนขี่รถ จยย. แม่นั่งซ้อนท้าย เพราะแม่อายุมากแล้ว ขี่ จยย. ไม่เป็น แต่ในรายงานชันสูตรพลิกศพแจ้งว่า แม่ตนเป็นผู้ขี่รถ จยย. ซึ่งไม่เป็นความจริง พอนำเอกสารไปแจ้งใบมรณบัตร ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้ดูใบชันสูตรพลิกศพเป็นหลัก ซึ่งหมายความว่า แม่ตนเป็นผู้ขี่รถ จยย. อีกทั้งเหตุการณ์ผ่านมาแล้วกว่า 2 เดือน ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา หรือจับกุมคนขับกระบะแต่อย่างใด ขณะที่รถกระบะได้นำกลับไปซ่อมที่บ้านแล้ว ทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด หลักฐานทางร้อยเวรก็ระบุชัดว่า คนขับกระบะผิดแน่นอน ทั้งแอลกอฮอล์สูงกว่ากฎหมายกำหนด จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพราะครอบครัวสูญเสียทั้งแม่และลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ