เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการ เครือข่ายภาคประชาชน โหวตเพื่อเปลี่ยน-Vote for Change นำโดย นายรัฐภูมิ เลิศไพจิตร โฆษกกลุ่ม We volunteer นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนา เพื่อประชาธิปไตย น.ส.ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และน.ส.กัลป์ยกร สุนทรพฤกษ์ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์เพื่อการชุมนุม เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 14 พ.ค. 66 ให้มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือในสายตาประชาชนเพราะกังวลว่าหากเกิดความผิดพลาดหรือความไม่โปร่งใส อาจนำมาซึ่งความไม่น่าเชื่อถือต่อการเลือกตั้งที่ออกมาและทำให้รัฐบาลชุดหน้าขาดความชอบธรรม การเลือกตั้งอาจไม่ใช่ทางออกของปัญหาในบ้านเมือง แต่กลายเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าเดิม

ดังนั้น กลุ่มโหวตเพื่อเปลี่ยน จึงขอเรียกร้องต่อ กกต. ดังนี้ 1.จัดทำบัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขตให้มีชื่อผู้สมัครหรือชื่อพรรคด้วย เพื่อป้องกันความสับสนหรือป้องกันบัตรเสีย ออกระเบียบให้มีการติดชื่อผู้สมัครพรรคการเมืองและหมายเลขผู้สมัครให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อเข้าคูหาเลือกตั้งไปแล้ว และควรให้หมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ เบอร์เดียวกัน

2.สร้างความชัดเจนในกระบวนการนับคะแนนและระบบวิธีการรายงานผลการเลือกตั้งอย่างเปิดเผย รายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกรอกคะแนน และรวมคะแนนของแต่ละเขตให้มีการนับคะแนนแบบ Real Time เมื่อนับคะแนนเสร็จแล้ว ให้ประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการทันที

3.สร้างความชัดเจนและกระบนการที่เปิดเผยในการนำส่งและรักษาบัตรเลือกตั้งจากการเลือกตั้งนอกอาณาจักร เพื่อความมั่นใจว่าคะแนนทุกคะแนนจะถูกนับและไม่มีปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างการจัดส่งและการจัดเก็บรักษา

4.สนับสนุนการสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากประชาชน อำนวยความสะดวกและการจัดสรรงบประมาณให้องค์กรภาคประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งและต้อนรับผู้สังเกตการณ์จากสากล 5.เมื่อนับคะแนนและรายงานผลคะแนนครบถ้วนเป็นทางการแล้วต้องรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการภายใน 3 วัน หลังการนับคะแนนสิ้นสุด เพื่อไม่ให้มีการขยายเวลาที่ยาวนานเกินไปจนทำให้เกิดการต่อรอง การวิ่งราวการจัดตั้งรัฐบาล หรือการแทรกแซงจากอำนาจนอกระบบ

6.หากมีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ให้ดำเนินคดีเป็นรายกรณีต่อผู้กระทำความผิดนั้น กกต.จะต้องไม่มีการยุบพรรคการเมืองในทุกกรณี เพราะพรรคการเมืองมีสมาชิกเป็นเจ้าของพรรคการเมือง การยุบพรรคการเมืองเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย

นายสมยศ กล่าวตอนหนึ่งว่า เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ ขอให้พรรคที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 1 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ส่วนผู้ที่ได้คะแนนลำดับ 2 ลำดับถัดๆ ไปไม่ต้องเข้ามายุ่ง ประการสำคัญ คือ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่ควรมีสิทธิโหวตเลือกนายกฯ หรือถ้าต้องทำควรโหวตให้เป็นไปตามเสียงของประชาชนส่วนใหญ่.