จากกรณีมีกระแสข่าว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ มีประวัติเคยรักษาโรคไบโพลาร์ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มาสักระยะหนึ่งแล้ว และต้องกินยารักษาอยู่เรื่อย ๆ รวมทั้งมีคนใกล้ชิดอ้างว่าป่วยจริง ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะนำประเด็นนี้มาต่อสู้ในชั้นศาลนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 31 ส.ค. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า หลังชุดทำงานในส่วนของกองบังคับการกองปราบปราม ได้ลงพื้นที่รวมรวบข้อมูลในประเด็นต่างๆ ก็ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวลว่ายังขาดประเด็นใดบ้าง ที่ต้องลงพื้นที่สอบสวนสืบหาเพิ่มเติม นำมาประกอบสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นคาดว่าจะต้องลงพื้นที่เก็บหลักฐานอีก ในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ ส่วนการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจในชุด 05 พยานที่ถูกกระทำต่างๆ ขณะนี้สอบสวนไปมากพอสมควร โดยตำรวจชุด 05 ได้สอบปากคำเพิ่มไปแล้วเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.)

ผู้สื่อข่าวถามว่าอดีต ผกก.โจ้ จะอ้างป่วยด้วยไบโพลาร์จะมีผลอะไรต่อรูปคดีหรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า หลักกฎหมายการกระทำความผิดถ้ากระทำโดยรู้สำนึกผิดชอบชั่วดี จะมาอ้างว่าเป็นไบโพลาร์ไม่ได้ แต่หากเขาทานยากระทำไปไม่รู้ผิดชอบชั่วดีก็อีกเรื่อง แต่อาการของผู้กระทำผิดไม่ใช่อย่างนั้น คดีนี้ไม่ยากเพราะมีคลิปเห็นพฤติการณ์การกระทำความผิดอยู่แล้วเป็นดุลพินิจของศาลจะมองอย่างไร วันนี้ยังไม่มีการเรียกใครมาสอบเพิ่ม รวมทั้งยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่ม อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน

ไขข้อกฎหมาย “ผกก.โจ้” อ้างเป็นโบโพลาร์ ไม่ต้องรับโทษได้หรือไม่?…

“เรื่องนี้ชัดเจนว่ามีการล่อซื้อยาเสพติดจริง มีการควบคุมตัวผู้กระทำความผิดจริง แต่วิธีการสอบสวนขยายผลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการคลุมหัวรีดข้อมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย รูปคดีเป็นอย่างนั้น ส่วนการกระทำผิดวินัยเป็นเรื่องของจเรตำรวจ ขณะที่กองปราบฯ ทำในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแจ้งข้อหาบุคคลใดเพิ่มในชุดร่วมจับกุม ยังไม่ยุติต้องสอบส่วนอื่นด้วยว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ในเหตุการณ์นั้นเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องสอบต่อไปขอให้ประชาชนมั่นใจว่าคดีดำเนินการโดย ผบ.ตร. จะถูกต้องเป็นธรรม และคดีนี้มีอัยการเข้ามาร่วมด้วย เชื่อมั่นได้เลยว่าสององค์กรไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้กับเรื่องนี้ การสอบสวนตรงไปตรงมาส่วนข่าวลือที่ลือกันไปส่วนเรื่องจริงอยู่ในสำนวน มั่นใจว่าทีมงานจากกองปราบ ภาค 6 จะทำงานร่วมกับอัยการ” พ.ต.อ.เอนก กล่าว

ส่วนกรณีที่มีอัยการร่วมทำคดีนี้ด้วย จะเริ่มกระบวนการสอบสวนใหม่หรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า อะไรที่ทำถูกต้องแล้วก็ทำต่อไป ส่วนไหนยังขาดเหลือไม่สมบูรณ์ก็สอบสวนเพิ่ม ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ สามารถเดินหน้าได้ต่อเนื่องต่อไปตามกรอบกฎหมาย ส่วนการโอนคดีและตัวผู้ต้องหาไปส่วนกลางนั้นเป็นขั้นตอนทางธุรการตามปกติก็ดำเนินการไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าวชุดสืบสวนสอบสวนของกองปราบปราม มีการนำข้อมูลมาวางบนโต๊ะ แยกโต๊ะกันในลักษณะวงกลม มีหัวหน้าชุดคอยเรียบเรียงหลักฐานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเฉพาะพฤติกรรมของตำรวจในชุด 05 ที่ไปเรียกรับผลประโยชน์ หรือผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำโดยตำรวจ 05 ชุดนี้ เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวนโดยเฉพาะประเด็นที่มีตำรวจคนไหนในชุดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้งอาญาและวินัย