จากกรณีที่ นายสาโรจนฤเบศธ์ หัสดินเดชดำรง ผู้จัดการธนาคาร อายุ 53 ปี ถูกฆาตกรรมฝังดินภายในบ้านพัก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน คาดเป็นฝีมือคนงานก่อสร้างที่ถูกเลิกจ้าง นั้น คืบหน้าเมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 18 เม.ย. 66 ที่ สภ.ไทรน้อย น.ส.ณกฤติกา หัสดินเดชดำรง อายุ 20 ปี อาชีพค้าขาย ลูกสาวผู้เสียชีวิต ได้เข้าสอบปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ฆ่าเปลือยฝังดินหนุ่มใหญ่ ‘ผจก.แบงก์’ ลูกสาวเจอคนร้ายจังๆ ผวาไม่กล้าจับเอง

โดย น.ส.ณกฤติกา กล่าวว่า ตนโทรหาพ่อไม่ติด ทางญาติโทรฯ มาบอกว่าที่ทำงานพ่อบอกว่าพ่อไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้ว ตนเลยขับรถมาตามหาที่บ้าน ตอนแรกไม่เจอใครเลยวนไปห้องเช่าที่พ่อซื้อไว้ ถามใครก็บอกไม่เจอพ่อมา 2 วันแล้ว เลยตัดสินใจวนกลับมาที่บ้านอีกรอบ พอกลับมาบ้านเจอผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในบ้าน ทราบชื่อภายหลัง นายตาล ลักษณะอายุประมาณ 30 กว่าๆ สวมเสื้อแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงวอร์ม สะพายกระเป๋าเป้ ตนกับนายตาลได้มีการพูดคุยและโต้เถียงกัน เพราะเขาบอกว่าตนไม่ใช่ลูกของพ่อ ตนเลยบอกให้นายตาล รอตำรวจก่อนค่อยไป แต่นายตาลบอกให้ตนตามไปจะไปแจ้งความที่โรงพักว่าตนใส่ร้าย ระหว่างนั้นตนได้ตะโกนไปให้คนช่วยว่ามีคนบุกรุกบ้าน แต่ไม่มีใครมาช่วย ตอนนั้นยังไม่ทราบว่าพ่อเสียชีวิตไปแล้ว หลังจากนั้นนายตาลได้ใส่กุญแจล็อกบ้านและเดินหนีไป ตนจึงไปตามคนงานก่อสร้างมาช่วยงัดบ้าน พอเข้าไปก็ได้กลิ่นแต่หาไม่เจอ จนญาติตามมาและเพื่อนของญาติบอกว่าได้กลิ่น เลยช่วยกันขุดหลุมในบ้านเจอกองเลือด แต่ยังไม่เชื่อว่าเป็นพ่อของตน ตำรวจเลยโทรฯ ให้ตนมาที่โรงพักเพื่อชันสูตรเลือด ระหว่างนั้นขุดไปเจอศพพบว่าเป็นศพของพ่อตนจริง

ลูกสาว ผจก.แบงก์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้าตนอยู่กับพ่อแค่ 2 คน จากนั้นได้ย้ายออกไปอยู่กับแฟนแถวบางบัวทอง มีเดินทางไปมาบ้าง ที่ผ่านมา ปกติแล้วนายตาลจะมาช่วยพ่อทำงานที่ห้องเช่า โดยไปๆ มาๆ แต่พ่อจะมีห้องให้พัก และให้ค่าจ้างด้วย แต่ต่อมาพ่อได้โทรฯ มาบอกว่าจะเลิกจ้าง เพราะนายตาลขี้เมา เคยมีปากเสียงกับพ่อ และโวยวายจนคนในห้องเช่ากลัว ย้ายหนีไป ไม่คิดว่าจะมาทำกับพ่อตนขนาดนี้ แถมเอากระเป๋าสตางค์พ่อไปด้วย คิดว่านี่คือประเด็นที่ทำให้นายตาลก่อเหตุ อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้เร็วที่สุด หลังจากนี้ตนจะนำศพของพ่อไปไว้ที่ วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร บางเชือกหนัง 7 วัน.