เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่บ้านโนนกราด หมู่ 2 ตำบลหนองหญ้าขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา นายอดุลย์ ศรอินทร์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 2 ทุกวันต้องเลี้ยง “เจ้าปัก” หรือ ปักธรณีชี้ฟ้า ควายเพศเมีย อายุเกือบ 20 ปี ที่เป็นมรดกทางความเชื่อซึ่งพ่อและแม่ทิ้งไว้ให้ โดยควายตัวนี้เหมือนควายอาถรรพณ์ที่มีลักษณะพิเศษ ห้ามซื้อขาย หรือเชือดชำแหละกิน หากฝ่าฝืนคนเลี้ยงอาจจะต้องมีอันเป็นไป ทำให้ต้องเลี้ยงกันจนตายไปข้างหนึ่ง โดยควายตัวนี้เป็นมรดกที่ตกทอดมาจากพ่อและแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมา

นายอดุลย์ บอกว่า ปกติควายตัวนี้พ่อและแม่คือ นายคล้าย และนางปรึ่ม ศรอินทร์ เป็นคนเลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้าพ่อและแม่ยึดอาชีพเลี้ยงวัวเลี้ยงควายเป็นหลัก เมื่อแก่ตัวลงจึงขายทิ้งทั้งหมด ยกเว้นเจ้าปักธรณี ซึ่งเป็นควายเพศเมียที่มีลักษณะแปลกประหลาด คือเขาข้างหนึ่งชี้ลงดิน อีกข้างหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า ตามความเชื่อของคนโบราณ เชื่อว่าเป็นควายอาถรรพณ์ห้ามซื้อขาย และห้ามฆ่าชำแหละเนื้อกินเป็นเด็ดขาด หากใครซื้อไปหรือขายไป หรือฆ่าชำเเละเนื้อ อาจจะมีอันเป็นไปได้ ทำให้หลังจากที่พ่อและแม่เลิกอาชีพเลี้ยงควายเลี้ยงวัวแล้ว แต่ยังต้องเลี้ยงควายตัวดังกล่าวมาสิบกว่าปี จนเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว แม่ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 78 ปี จากนั้นอีก 3 เดือนต่อมา พ่อก็มาเสียชีวิตลงด้วยวัย 91 ปี ด้วยโรคชราทั้งคู่ ตนซึ่งเป็นลูกจึงต้องมารับมรดกควายตัวนี้ดูแลต่อ ซึ่งก่อนตายพ่อและแม่ได้สั่งไว้ว่า ห้ามขายห้ามฆ่าควายตัวนี้อย่างเด็ดขาด ต้องเลี้ยงไปจนกว่าควายตัวนี้จะตาย ตนจึงต้องรับมรดกเลี้ยงควายต่อจนกว่าจะตายจากกัน

นายอดุลย์ บอกอีกว่า ในทุกเช้าตนจะมาเอาควายไปผูกไว้ใกล้กับสระน้ำท้ายสวน เพื่อให้สามารถลงกินน้ำเองได้ จากนั้นก็จะไปเกี่ยวหญ้าจากพื้นที่ใกล้เคียงมากองไว้ให้ควายตัวดังกล่าวก่อนจะไปทำงานทำไร่ทำสวนต่อ ถือเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นประจำทุกวัน ตนคงไม่กล้าขายหรือกล้าส่งให้ใครชำแหละ เพราะความเชื่อของคนโบราณบอกว่าถ้าขายและหรือฆ่า อาจจะทำให้เรามีอันเป็นไป ตนคงต้องเลี้ยงควายตัวนี้ไปจนกว่ามันจะตายไปเอง.