เมื่อวันที่ 8 พ.ค. รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี นายคม หรือ อดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี ร่วมกับพรรคพวก ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี กลุ่มผู้ต้องหามีการซุกซ่อนเงินของกลางไว้ที่บัญชีน้องสาวของนายคม รวมทั้งเงินสดที่แพ็กใส่กระเป๋าไว้ พบทองคำฝังดินไว้หลังวัด มูลค่าทรัพย์สินรวม ร่วม 200 ล้านบาท

อ.จตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านพุทธศาสนา เล่าว่า ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะมีการเข้าไปจับกุมอดีตพระคม เพราะเขาไปร่วมงานศพหลวงพ่อเหลือง แล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย 3 วัน ก่อนที่ตนจะออกมาโพสต์ แล้วมีคนเข้ามาให้ข้อมูลมากมายว่า ท่านสึก หรือถูกบังคับให้สึก อดีตพระคม เป็นความหวังของธรรมยุติกนิกาย เพราะเป็นพระที่มีคนให้ความศรัทธามาก ทั้งประชาชนทั่วไป ไปจนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ถึงขั้นองคมนตรี ทั้งยังเป็นพระหนุ่มที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าคุณชั้นสามัญ

เดิมอดีตพระคม เป็นนิสิตวนศาสตร์ ไม่แน่ใจว่าเรียนจบหรือไม่ แต่ก็มาบวชเรียน แล้วไปฝึกวิชากรรมฐานสายหลวงตา มหาบัว ก่อนจะเปิดสำนักดังกล่าว อุทิศกุศลให้หลวงตามหาบัว ซึ่งอดีตพระคม เป็นประธานสงฆ์ ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งตามศักดิ์การบริหารภายใน ประธานสงฆ์ใหญ่กว่าเจ้าอาวาส แต่เดิมทีตามหลักศาสนาแล้ว ไม่มีตำแหน่งประธานสงฆ์ เป็นตำแหน่งที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ หลายๆ วัดมีตำแหน่งนี้งอกขึ้นมา

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม เผยว่า โดยแรกเริ่ม ทางกองปราบฯ ได้รับการร้องมาจากสำนักพระพุทธศาสนา ว่าพระรูปนี้มีพฤติกรรมเสพเมถุน และยักยอกเงิน จึงเริ่มเข้าไปสืบสวนและขยายผล จนพบความผิดอาญาในเรื่องการยักยอก และพบพฤติกรรมเสพเมถุนกับผู้ชาย ทั้งฆราวาสและพระด้วยกัน ซึ่งในเรื่องนั้นจะเป็นความผิดวินัยสงฆ์

วัดดังกล่าวมีบัญชีวัด 6 บัญชี อดีตพระคมร่วมกับอดีตพระหมอ ที่เป็นเจ้าอาวาส จะรวบรวมเงินทำบุญเป็นก้อนใหญ่ แล้วนำไปฝากให้น้องสาวเป็นคนเก็บไว้ จากการไปตรวจสอบที่บ้านของน้องสาว พบเงินสดเก็บในบ้าน 51 ล้านบาทเศษ เก็บไว้ในกระเป๋าบ้าง กล่องโฟมบ้าง น้องสาวเขายอมรับสารภาพว่าเป็นเงินของวัด ซึ่งพระพี่ชายให้เก็บไว้ เพื่อรอใช้จ่ายเป็นประโยชน์ของวัด ไว้สร้างเจดีย์ ที่ให้น้องสาวเป็นคนเก็บ เพราะพระคมไม่ไว้ใจใคร เคยมีกรรมการวัดโกงเงิน ไว้ใจน้องสาวคนเดียว จึงนำเงินมาฝากน้องสาวไว้ นอกจากนี้ยังพบอีก 130 ล้านบาท อยู่ในบัญชีธนาคารของน้องสาวพระคม ซึ่งก็อ้างเหตุผลเดิมคือ พระคมไม่ไว้ใจใคร ไว้ใจน้องสาวคนเดียว

แต่จากการสืบสวนสอบสวน ตำรวจพบว่า การสร้างเจดีย์ที่เขากล่าวอ้าง มันต้องจ่ายงวดสุดท้าย เป็นเงิน 38 ล้านบาทเท่านั้น แล้วเวลาที่เบิกจ่ายผู้รับเหมา พระหมอ (เจ้าอาวาส) ก็ไปเบิกจ่ายหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร ไม่ได้เกี่ยวกับเงินที่มาฝากน้องสาวพระคมไว้เลย แล้วบัญชีวัดก็มีบัญชีที่ระบุชัดเจน ว่าเป็นบัญชีสำหรับสร้างเจดีย์

นอกจากนี้จากการขยายผล พบว่าอดีตพระหมอ มีการเอาเงินวัดไปซื้อทองมาเก็บไว้ มีทองที่ประชาชนเอามาทำบุญด้วย แต่จากการตรวจค้นไม่พบ ในตู้เซฟไม่มี จึงทำการขยายผลจนไปพบว่า ทองถูกห่อ ขุดหลุมฝังดินไว้บนภูเขาหลังวัด

ผบก.ป. ยังเผยอีกว่า การสืบสวนจะต้องมีการขยายผลไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ได้หยุดแค่ 3 คนนี้ ทั้งคนรถของวัด และพระที่ช่วยกันยักย้ายถ่ายเททรัพย์ น่าจะมีความผิดด้วยกันหมด ส่วน 3 คนนี้ จะติดคุกแน่นอนหรือไม่นั้น เราเชื่อมั่นในพยานหลักฐาน นอกเหนือจากนี้ เราจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย

ด้าน คุณเอ ลูกศิษย์อดีตพระคม โฟนอินเข้ามาเล่าว่า ตนไปทำบุญที่วัดนี้ นาน 10 กว่าปี เห็นมาตั้งแต่ตอนที่บนวัดไม่มีไฟฟ้าใช้ เรียกได้ว่าเห็นวัดนี้มาตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน ไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เรื่องเงินตนไม่เคยไปยุ่ง ไม่เคยไปเกี่ยวข้อง ยอมรับว่าหลังทราบข่าวแล้วตกใจมาก อดีตพระคม และอดีตพระหมอ ทั้งสองท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงมาก จำชื่อลูกศิษย์ลูกหาได้หมด เรื่องว่าเขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันไหม ตนมองไม่ออกเลย ส่วนตัวไม่คิดว่าจะเป็นไปได้จริงๆ ภายนอกดูไม่ออกเลย ส่วนอยากจะฝากบอกอะไรพระคม พระหมอ ที่เคยศรัทธาหรือไม่นั้น ก็ขอให้พระคุ้มครองแล้วกัน (หัวเราะ)

ขอบคุณข้อมูลจากโหนกระแส