การแข่งขันมวยสากล ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการชกในวันสุดท้าย มีกำปั้นไทย ที่คว้าไปแล้ว 5 ทอง 1 เงิน ขึ้นสังเวียนรอบชิงชนะเลิศ อีก 5 รุ่น ปรากฏว่า ขุนพลเสื้อกล้ามไทย คว้ามาได้ถึง 4 ทอง 1 เงิน เริ่มจากรุ่น 48 กก.ชาย “โรเบิร์ต” ณัฐพงศ์ ท้วมเจริญ  โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเอาชนะ ดิโอ โคบานู จากอินโดนีเซีย 5-0 คะแนน คว้าเหรียญทองมาครอง, รุ่น 67 กก.ชาย บรรจง สินสิริ เอาชนะ นอร์แลนด์ อัลเคยเด เป จากฟิลิปปินส์ 5-0

รุ่น 80 กก.ชาย “ซีเกม” วีระพล จงจอหอ หลานชาย สมจิตร จงจอหอ นักชกฮีโร่เหรียญทอง โอลิมปิเกมกม์ 2008 ดวลเดือดกับ จอห์น โนเบล ตูปาส จากฟิลิปปินส์ ก่อนจะชนะไป 5-0, รุ่น 69 กก.หญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ชนะอาร์เอสซี วี สเรคอช จากกัมพูชา เพียงแค่ยกแรกเท่านั้น และรุ่น 60 กก.ชาย รุตชการณ์ จันทร์ตรง แพ้ พอล จูลีเฟอร์ เคลี จากฟิลิปปินส์ 1-3 ได้เพียงเหรียญเงิน
สรุป ทีมมวยสากลไทย กวาดไป 9 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ทอง

หลังการชก ณัฐพงศ์ เผยว่า วันนี้เหนื่อยเหมือนมาก คู่ต่อสู้ก็แข็งด้วย แต่ถือว่าเป็นไปตามแผนที่โค้ชวางไว้ คือเดินหน้าออกหมัดชุด พอเข้ายก 2 ก็เริ่มมั่นใจ ดีใจมากที่คว้าเหรียญทอง ตั้งแต่ครั้งแรกที่มาแข่งขัน เงินรางวัลที่ได้จะนำไปช่วยแม่ทำธุรกิจบ่อกุ้งต่อไป

วีระพล เผยว่า ก่อนมาชกได้รับคำแนะนำจาก สมจิตร จงจอหอ ให้เน้นหมัดหน้ายาวๆ และมีสมาธิให้มากๆ เพราะตนเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ก็ดูเหมือนว่าไฟต์นี้จะไม่เป็นไปตามแผนเท่าไหร่ เนื่องจากโดนคู่แข่งยั่ว ยังดีที่คว้าเหรียญทองมาได้ จากนี้คงต้องกลับไปแก้ไขในเรื่องสมาธิ ส่วนความสำเร็จครั้งนี้ ขอมอบความให้กับพ่อแม่ ที่คอยสนับสนุนมาโดยตลอด ส่วนที่ต้องแบกรับนามสกุล “จงจอหอ” ฮีโร่โอลิมปิกเกมส์นั้น ไม่รู้สึกกดดัน เพราะทำเต็มที่ทุกการแข่งขันอยู่แล้ว

พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ ผู้ฝึกสอนทีมนักชกไทย เผยว่า ตอนแรกเราหวังไว้ว่า 5 ทอง และอาจจะได้สัก 6 ทอง แต่สุดท้ายได้มาถึง 9 ทอง ถือว่าเกินเป้า จุดสำคัญคือการที่เราเอานักกีฬาความหวังทั้งหมดมาหมดเลย เพื่อต่อยอดไปยังเอเชี่ยนเกมส์ ที่จีน ส่วนที่พลาดไป 3 รุ่น ก็เป็นรุ่นที่สูสี ซึ่งกลับไป เราต้องไปปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป