งานนี้ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ขอพักรบ ยื้อเกมต่อรอง เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยการโยนเป็นโควตากลางไปเจรจาแค่ 2 พรรค คือ พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางกระแสข่าวลือมีเก้าอี้กระทรวงพลังงานเป็นตัวล่อ เป็นเกมชิงเหลี่ยม เฉือนคม ในมรสุมเกมสอย “ทิม พิธา” เหตุถูกร้องขาดคุณสมบัติ ส.ส. จากปมถือหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งหากพรรคก้าวไกล ยอมถอย ปล่อยเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้เพื่อไทย แล้วเกิดพลาดพลั้ง “พิธา” ฝ่าด่านวิบากกรรมถือหุ้นสื่อไม่พ้น ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ เก้าอี้ นายกรัฐมนตรี ต้องตกไปอยู่ในมือ พรรคอันดับสอง คือ พรรคเพื่อไทย หรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้ยิ่งใหญ่เป็นหนึ่งในปฐพี คือ พรรคเพื่อไทยที่จะได้ทั้ง 2 เก้าอี้ ทั้งนายกรัฐมนตรี และประธานสภาฯ

แต่ถึงอย่างไรชั่วโมงนี้ “พิธา” เดินหน้าไปต่อไม่รอใคร หลังผนึกกำลัง 8 พรรคร่วม จัดตั้งคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล เพื่อสานต่อ MOU สร้างเกมจำลองเสมือนเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกม ก้าวไกล วันนี้ ขอลุยด่านหินเปิดเวทีตระเวนพบ นักธุรกิจไฮเอนด์ จับเข่าคุยทำความเข้าใจลดกระแสแรงต้าน เพิ่มพลังบวกปมร้อนการขึ้นค่าแรงทันที 450 บาท ที่ดูแล้วจะขลุกขลักมีแนวโน้มต้องชะลอเลื่อนไปก่อน หลังเดินสายพบภาคเอกชนทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งชาติ (สภอ.) และสภาหอการค้าไทย เพื่อเตรียมความพร้อมลุยกรุยทางขึ้นตึกไทยนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในขณะที่ต้องฝ่ามรสุม 2 ทางวิบาก ทั้งปมถือหุ้นไอทีวี และด่าน 250 ส.ว.

นอกจากนี้ยังหอบคณะเดินสายลุยต่อไปที่สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ร่วมการประชุมเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะนโยบายด้านการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกล ร่วมกับสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้ง 3 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมสันนิบาตเทศบาล, สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล

พร้อมเปิดโรดแม็พกระจายอำนาจ 100 วันแรก ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจและการทำงานของท้องถิ่น รวมถึงคำสั่ง คสช. 8/2560 เพื่อคืนอำนาจการคัดเลือกบุคลากรให้ท้องถิ่น และภายใน 1 ปีทำประชามติยุบส่วนภูมิภาค เปิดทางเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ส่วน 4 ปีถ่ายโอนงาน-เงิน-คนให้ท้องถิ่น 2 แสนล้าน โดยนัดจัดเวิร์กช็อปร่วมกัน 15-16 มิ.ย. นี่คือเป้าหมายที่จะทำร่วมกันในอนาคต เพื่อประชาชนเมื่อจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ

ขณะที่ฟากอำนาจเก่าอย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังคงปักหมุดสู้ ล่าสุดส่งสัญญาณเตือนพรรคก้าวไกลให้รักษามารยาท ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ควรเรียกส่วนราชการเข้ามาหารือ พร้อมบอกให้รู้ว่า วันนี้ข้าราชการทำงานภายใต้รัฐบาลรักษาการอยู่ เพราะฉะนั้นข้าราชการเขารู้ ทำงานต้องเป็นไปตามระเบียบวินัย อะไรที่ทำนอกกรอบวินัยของข้าราชการก็มีความผิด ตอนนี้ยังมีอีกหลายขั้นตอน เพราะขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้มีการรับรอง แต่ถ้าผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองแล้ว ถึงจะจัดตั้งรัฐบาลได้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก

ทำเอา “รังสิมันต์ โรม” ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เล่นบทถึงลูกถึงคน ออกมาฟาดกลับทวงสปิริต “ลุงตู่” ให้ยอมรับความพ่ายแพ้ เก็บข้าวออกจากตึกไทยได้แล้ว อย่าคอยส้มหล่น พร้อมสอนให้รู้จักแสดงความยินดีกับคนชนะบ้างตามหลักปฏิบัติสากล ปลุกกระแสด้อมเตรียมพร้อมให้ออกมาเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ เพราะก้าวไกลกำลังถูกเตะตัดขา ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง มีกระบวนการชี้นำสังคม ไม่เคารพต่อเจตจำนงประชาชนที่ออกไปเลือกตั้ง ทั้งที่การเปลี่ยนผ่านของรัฐบาลควรไปด้วยความราบรื่น แต่กลับมีกระบวนการต่างๆ มาทำให้รัฐบาลที่มาจากเสียงประชาชนต้องเสียไป

ล่าสุด กูรูกฎหมาย “วิษณุ เครืองาม” รองนายกัฐมนตรี ทำดีกรีการเมืองร้อนขึ้นไปอีก ที่ออกมาติดเบรกด้อมส้มอย่าเพิ่งฝันไกล ย้ำชัด ๆ อาจะมีเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งประเทศก็เป็นได้ เพราะเหตุ “นายพิธา” ยังมีคดีหุ้นไอทีวีเป็นชนักปักหลัก มีคนไปร้อง กกต.ซึ่งไม่รู้ว่าคำร้องนั้นร้องอย่างไร ถ้าร้องในประเด็นว่า ขาดจากการเป็น ส.ส. นายพิธา ก็สามารถเป็นนายกฯได้ เพราะนายกฯ ไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ได้ หรือถ้าร้องว่าขาดจากความเป็นนายกฯ ก็สามารถเป็น ส.ส.ได้ แต่ถ้าคนร้อง ร้องทั้ง 2 เรื่อง ศาลก็จะวินิจฉัยทั้ง 2 เรื่อง หรืออาจจะกระทบไปอีกประเด็น คือ การรับรองสมาชิกพรรคให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง

ฉะนั้นอยู่ที่คำร้องว่าจะร้องอย่างไร จะร้องทั้ง 3 ประเด็นเลยหรือไม่ ถ้าร้องทั้ง 3 ประเด็น ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องพิจารณาทั้ง 3 ประเด็น พลิกผันอาจนำไปสู่การเลือกตั้งซ่อมใหม่ทั้งหมด

ขณะที่ “เสรี สุวรรณภานนท์” ส.ว. ออกมาตอกย้ำชี้อนาคต ก้าวไกล ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกตั้งใหม่ หากจะเป็นโมฆะควรเป็นเฉพาะเขตที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ควรโมฆะทั้งหมด แต่บางฝ่ายเห็นว่า ต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ เพราะคะแนนที่พรรคก้าวไกลได้ไป ทำให้คะแนนเสียงของคนอื่นๆ ผิดเพี้ยนไม่ตรงกับความจริง คะแนนจึงไม่ควรเสียเฉพาะพรรคก้าวไกล แต่เสียทั้งระบบ ขึ้นอยู่กับศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นอย่างไร และมีคำวินิจฉัยเช่นใดออกมา ถ้าเลือกตั้งเฉพาะเขตที่พรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งก็เสียหายน้อยหน่อย แต่ถ้าต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ คงเสียหายเยอะ แต่ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับจะเสียหายมากน้อยอย่างไร 

เกมนี้ดูแล้วพรรคก้าวไกล ไม่ยอมง่ายๆ และพยายามสร้างมวลชนปลุกด้อมเป็นแรงสนับสนุนและผลักดัน รวมถึงเป็นแรงกดดันไปที่ กกต.ที่ต้องรับรอง ส.ส. ตรวจสอบข้อมูล ก่อนจะประกาศรับรองตามกระบวนการเลือกตั้ง

จากเค้าลางสัญญาณอันตรายทำให้ “นายจเด็จ อินทรสว่าง” ส.ว.อีกคน ออกมาเสนอตั้ง รัฐบาลแห่งชาติ สิ่งที่ตอบโจทย์การเมืองได้ตอนนี้ คือ รัฐบาลแห่งชาติ แต่ละพรรคนำข้อดีของตนเองร่วมทำงานเพื่อบ้านเมือง สร้างความแข็งแกร่งของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โมเดลคือ ให้ทุกพรรคนำส่วนที่ดีมาทำงานร่วมกัน ประสานประโยชน์ พุ่งเป้าไปที่ความมั่นคงของชาติ เจอตอกกลับไม่เอาด้วย แม้กระทั่ง ส.ว.ด้วยกันเอง ซึ่งอาจจะต้องพับไปก่อน หรือไม่ต้องจับตารอดู 

ขณะที่กลไกลองค์กรอิสระด่านแรกเริ่มทำงานแล้ว คือ กกต.ได้เรียกบรรดานักร้องที่ยื่นคำร้องเข้ามาให้พิจารณา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว มาให้การยืนยันคำร้องที่ยื่นเข้ามา พร้อมทั้งให้ถ้อยคำเพิ่มเติม ซึ่งขั้นตอนของ กกต.ยังเพิ่งเริ่มต้น และยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เชื่อว่า กกต.ต้องประกาศรับรองผลให้ นายพิธา ไปก่อน ค่อยไปสู่กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ

ทำให้กลุ่ม Love Democracy – เรารักประชาธิปไตย พร้อม นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ นนทบุรี อดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะการพิจารณาคำร้อง ตรวจสอบคุณสมบัติ นายพิธา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล และกรณีการถือครองหุ้นสื่อ บริษัทไอทีวี เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยเร็วที่สุด เกมการเมืองไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์แค่ 1+1 = 2 หรือ 8 พรรคการเมือง รวมแล้วเท่ากับ 313 เสียงแล้วจะจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมีมรสุมร้อนรุมเร้าที่คอยกระตุกขา “ก้าวไกล” ไม่ให้ไปถึงฝั่งฝัน แต่อย่าลืมว่าการเคลื่อนแต่ละฝั่งมีประชาชนคอยจับตาดูอยู่!!!.