เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคพท.แสดงจุดยืนให้พรรคที่มี ส.ส.อันดับ 1 ได้ตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่ายังยืนยันความเห็นเดิมว่าเมื่อพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรค พท.ไม่ได้มีใครได้เสียงข้างมากเด็ดขาดไปกว่ากันก็สมควรไปโหวตในสภา ใครจะได้ตำแหน่งประธานสภาเรื่องนี้ควรเป็นทฤษฎี “กินแบ่ง” ไม่ใช่ “กินรวบ”

นายอดิศรกล่าวว่า ถ้าอยากจะกินรวบต้องได้เสียงขาดลอย 376 เสียง แต่ถ้าสูงแค่ 151 แล้วจะเป็นทั้งประมุขฝ่ายบริหารและประมุขฝ่ายนิติบัญญัติถือว่าเพ้อฝัน ได้เท่านี้แต่จะเอาทั้งหมดไม่ได้ ยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภาควรเป็นของพรรค พท. หรืออย่างน้อยต้องใช้มติที่ประชุมสภาตัดสิน เพราะสภาเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของพรรค ก.ก.

เมื่อถามว่ากรณีนี้แกนนำพรรค พท.แสดงจุดยืนพรรคชัดเจนให้พรรคอันดับ 1 เป็นประธานสภาจะคัดค้านอย่างไร นายอดิศรกล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เคยแจ้งให้ทราบมาก่อน ตนไม่เห็นด้วยและเชื่อว่ามีคนในพรรคก็ไม่เห็นด้วยหลายคนเช่นกัน ซึ่งจะไปตัดสินใจโดยความเห็นของแกนนำเพียง 1-2 คนไม่ได้ ตนก็เป็นผู้ใหญ่ในพรรค แต่ก็ไม่รู้เรื่องนี้ ฉะนั้น จึงควรนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมพรรคเพื่อสอบถามความเห็นสมาชิกพรรคก่อน อย่างไรก็ตาม จะนำเรื่องนี้ไปสู้ในที่ประชุมพรรคอย่างถึงที่สุดแน่นอน

“วันที่ 21 มิ.ย.ผมจะนำเรื่องนี้ไปสอบถามต่อที่ประชุมว่าเหตุใดไม่แจ้งให้สมาชิกทราบ ไม่ใช่ไปตัดสินใจกันเอง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นก้าวไกลไปแล้วหรือ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเคยพลาดตอนไปช่วยโหวตให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในขณะนั้น ชิงตำแหน่งนายกฯตอนปี 2562 มาแล้ว ทั้งที่พรรคก็มีชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของตัวเองอยู่ จะไปกลัวเขาตลอดไม่ได้ เหล็กอยู่เฉยๆ จะอ่อนได้ยังไง จะต้องมีอะไรเกิดขึ้น” นายอดิศร กล่าว.