เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้หารือนอกรอบกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใช้เวลาหารือประมาณ 40 นาที โดยเป็นการหารือถึงมาตรการทางการเงินการคลังที่จะหมดอายุในช่วงรัฐบาลรักษาการ ซึ่งการดำเนินการจะคาบเกี่ยวกับรัฐบาลใหม่ และมีมาตรการเกี่ยวกับโครงการใหม่และการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องดำเนินการตามมาตรา 169 โดยเฉพาะภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่มาตรการลดภาษี 5 บาทต่อลิตร จะสิ้นสุด 20 ก.ค. นี้

ต่อมาเวลา 13.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการหารือนอกรอบดังกล่าวว่า ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการทำงาน ประเทศต้องเดินหน้าต่อไป ประชาชนจะต้องได้รับการดูแลมากขึ้น ซึ่งเรื่องมันเยอะ สำหรับความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาของรัฐบาลในช่วงรักษาการ จะทำให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาระรัฐบาลต่อไปข้างหน้า ในช่องทางที่ดำเนินการได้อย่างถูกต้อง ไม่ขัดแย้งกับมาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญในการแก้ปัญหาต่างๆ โดยดูแลความเดือดร้อนประชาชนเป็นหลัก ซึ่งเรากำลังดูแลอยู่

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเพื่อแสดงความยินดีกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ได้เป็น ส.ส. ป้ายแดง เพราะเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ครั้งแรก ว่า ได้รับรองก็ยินดีกับท่านไปแล้ว ยินดีทุกวันอยู่แล้ว ส่วนได้ข่าวหรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ข่าว จะเป็นได้อย่างไรยังไม่รู้เหมือนกัน ต้องไปว่ากัน ดูในกระบวนการการจัดตั้งรัฐบาล ตนยังไม่รู้ เพราะไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ตนบอกแล้วทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ ในเรื่องทางการเมืองก็ว่ากันไป ก็ยินดีกับทุกคน

“ผมยินดีกับ ส.ส. ใหม่ป้ายแดงทุกคน ก็ขอให้อยู่กันให้ครบก็แล้วกัน เพราะหลายคนอาจจะมีปัญหาบ้าง อะไรบ้างก็แล้วแต่ท่าน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

เมื่อถามต่อว่า ล่าสุดดูเหมือนพรรคเพื่อไทยให้พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคอันดับ 1 ได้เก้าอี้ประธานสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องภายในของเขา ตนไม่ไปเกี่ยวข้อง ก็ว่ากันไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) การโหวตจะต้องเป็นมติของที่ประชุมพรรคใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องรอขั้นตอนที่เขาดำเนินการอยู่ในขณะนี้ก่อนว่า เราจะไปในทิศทางใด ในฐานะที่เรามีคะแนนเสียง 36 คน ไม่ได้มากมาย ก็ต้องฟังพรรคใหญ่ๆ เขาคุยกันก่อน 

เมื่อถามอีกว่ามีข่าวว่าขั้วรัฐบาลเดิมจะจับมือเสนอชื่อประธานสภาแข่งกับพรรคก้าวไกล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นข่าว เป็นข่าวโคมลอย โคมจมบ้างก็ว่าไป ส่วนมีโอกาสหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ไม่ทราบ ยังไม่ได้พูดคุย ก็ให้เขาดำเนินการตามขั้นตอนของเขาไปก่อนวันหน้าทางฝ่ายการเมืองเขาก็ว่ากันเอง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า อยากให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด เพราะปัญหามันเยอะที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง รัฐบาลใหม่ก็ต้องดำเนินการต่อไป ดังนั้นการตั้งรัฐบาลถ้ามันช้าไปก็จะมีปัญหาต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ เตรียมข้อมูลส่งต่อให้รัฐบาลใหม่แล้ว ทุกกระทรวงเขาเตรียมไว้หมดแล้ว เวลามาเขาก็ต้องส่งต่อ ตอนตนเข้ามาไม่มีใครส่งทั้ง 2 ครั้งก็ทำ วันนี้ท่านก็รู้หมดอยู่แล้ว ตนเห็นท่านพูดตรงโน้นตรงนี้ก็เยอะแยะไปหมดแล้ว ในสิ่งที่เราทำ ท่านเข้ามาก็ดูแลให้ดีก็แล้วกัน ตนไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ เป็นเรื่องของผู้ที่เขามีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ว่ากันไป

เมื่อถามอีกว่าในฐานะรัฐบาลรักษาการต้องเตรียมอะไรหรือไม่ในช่วงโหวตนายกฯ ในสภา อาจเกิดความวุ่นวายข้างนอก ได้คุยกับทางตำรวจทหารหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็ต้องมีมาตรการอยู่แล้วในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย มีกฎหมายบ้านเมืองอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่อยากให้มันเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามลงมาบนถนน มันไม่ควรอยู่แล้วในช่วงรักษาการในวันนี้ ไม่อยากให้มีการปลุกปั่นไปข้างใดข้างหนึ่งทั้งสิ้น ไม่ว่าจะข้างตนหรือข้างใครก็แล้วแต่ ตนไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร 

เมื่อถามด้วยว่า มองอย่างไรกับการเดินสายพบประชาชนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีผลกระทบอะไรกับการทำงานของรัฐบาลรักษาการหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มอง ไม่มี ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ก็ทำไปเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมก็แล้วแต่” ส่วนในวันคล้ายวันเกิดของนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา นางนราพรได้ขอของขวัญอะไรพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มี”