จากกรณี ด.ญ. 11 ขวบ และน้องวัย 2 ขวบ ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่ 2 เดือน ให้อยู่กับตายายที่ต้องอาศัยอยู่ที่วัดน้ำคอก (ดอนขุดทอง) ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง กระทั่งผู้สื่อข่าวตามไปสัมภาษณ์นางดาหวัน ทาทอง อายุ 62 ปี ยายของเด็กทั้งสองคน เผยทุกวันนี้มีรายได้จากนายชัย สามีที่ทำงานก่อสร้างภายในวัด ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรกิน สงสารหลานทั้งสองคน โดยเฉพาะหลานสาว อายุ 11 ขวบ ที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนวัดน้ำคอก มีชุดนักเรียนแค่ชุดเดียว ต้องซักทุกวันและใช้พัดลมเป่าให้แห้งสนิท ทันใส่ในวันถัดไป ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระยอง นางนภารัตน์ เริ่มปลูก นักพัฒนาชุมชนเทศบาลตำบลน้ำคอก นางณัฏฐ์ชุภา แสงจันทร์พงษ์ ปลัดอำเภอเมืองระยอง นายวุฒิชัย ไกรวิเศษ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาสำนักงานเขต 1 และนายจรัญ สุขใส ผอ.โรงเรียนวัดน้ำคอก ได้เดินทางมาที่วัดน้ำคอก (ดอนขุดทอง) ต.น้ำคอก อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อมาตรวจเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.สุนันทา อ่ำส้ม อายุ 11 ขวบ หรือ น้องฟาน และ น้องสาววัย 2 ขวบ ที่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อาศัยอยู่กับตายาย ตั้งแต่อายุเพียง 2 เดือน

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าสอบถามเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเด็กทั้งสองคนกับนางดาหวัน ทาทอง อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นยาย โดยมีพระอธิการเกรียงไกร ชยุตฺตโม เจ้าอาวาสวัดน้ำคอกใหม่ (ดอนขุดทอง) ได้กล่าวว่า ทางวัดให้ความช่วยเหลือที่อยู่อาศัย และให้ตาของเด็กทั้งสองคนทำงานก่อสร้าง พร้อมทั้งให้อาหารจากการบิณฑบาตทุกวัน โดยไม่ทราบมาก่อนว่าลำบากในเรื่องอื่นๆ เพราะทางตายายไม่เคยพูดถึง ดีใจกับความช่วยเหลือของผู้ใจบุญ ที่มอบให้กับเด็กหญิง ขอให้เกิดความเจริญกับทุกท่าน

ต่อมานางสาวนพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระยอง ได้เข้าตรวจสอบภายในห้องพัก ซึ่งพบว่าห้องไม่มีความมิดชิด หวั่นจะเกิดอันตรายกับเด็กและยาย จึงเตรียมซ่อมแซมห้องให้มิดชิดแน่นหนา พร้อมมอบเงินจำนวน 3,000 บาท และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้ จากการตรวจสอบยอดเงินบริจาค ที่ยังคงหลั่งไหลเข้ามาตลอด เมื่อช่วยตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร นางดาหวัน ทาทอง ธนาคารกรุงไทย สาขาบิ๊กซีระยอง หมายเลข 759-0-47812-1 ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดรับบริจาค พบว่ามียอดเงินบริจาคเข้ามาทั้งหมด 358,256 บาท จึงแจ้งยอดให้รับรู้ ปรากฏว่า นางดาหวัน และน้องฟาน ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกันด้วยความปลาบปลื้ม

ด้านนางดาหวัน ได้กล่าวขอบคุณผู้ใจบุญทุกคน พร้อมทั้งผู้สื่อข่าวที่ให้ความช่วยเหลือ ดีใจจนไม่รู้จะพูดออกมายังไง ต่อไปหลานจะได้มีชุดนักเรียนใส่แล้ว มีเงินไว้เรียนต่อสูงๆ สำหรับเงินที่ได้จะนำส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่าย และนำอีกส่วนหนึ่งฝากบัญชีเป็นชื่อของหลานทั้งสอง เก็บไว้ใช้หลังบรรลุนิติภาวะ โดยเตรียมจะนำเงินไปซ่อมแซมบ้านที่ จ.อุบลราชธานี บ้านเกิด แล้วจะพาหลานกลับไปอยู่อาศัย พร้อมเรียนต่อที่ จ.อุบลราชธานี ขอสัญญากับผู้ใจบุญทุกคนว่า จะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ให้เกิดประโยชน์ต่อหลานทั้งสองคนให้มากที่สุด ยายเองแก่แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องใช้มากมาย

ส่วนทางด้าน น.ส.นพพนา ได้กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ความช่วยเหลือในด้านที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพราะเด็กทั้งสองคนเป็นผู้หญิง โดยจะซ่อมแซมปรับปรุงห้องพักให้มิดชิด และเข้ามาช่วยดูแลเกี่ยวกับเรื่องเงินบริจาค โดยจะประสานทางเทศบาลตำบลน้ำคอก ผอ.โรงเรียนน้ำคอก เข้ามาช่วยกันร่วมดูแล โดยเบื้องต้น ทางยายมีความประสงค์จะแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน ให้หลานสองคนโดยฝากธนาคารเป็นชื่อหลานทั้งสองคน อีกหนึ่งส่วนจะเก็บไว้ใช้จ่ายเลี้ยงดูหลานทั้งสองคน โดยจะใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ให้คุ้มค่า สมกับความตั้งใจของผู้ใจบุญที่บริจาคมา

ขณะที่ นางช่อชะบา ชื่นบาน ผอ.สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยองเขต 1 ได้กล่าวภายหลังทราบเรื่องว่า สำหรับการศึกษาของน้องฟาน ได้กำชับให้ทางโรงเรียนที่เด็กเรียนอยู่ หากขาดเหลืออุปกรณ์การเรียน ก็จะยินดีให้ความช่วยเหลือ ส่วนเรื่องที่ยายของเด็ก มีความประสงค์จะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด จ.อุบลราชธานี ก็จะให้ความช่วยเหลือในการย้ายโรงเรียนเช่นเดียวกัน