กรณี น.ส.พัชรินทร์ เอสะตี หรือ ครูอุ้ม อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน ต.ตาเสา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ โพสต์คลิปภาพของ ด.ญ.สุธีมมนต์ จินดาศรี หรือ น้องเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ขณะล้างจานที่บ้าน พร้อมบรรยายชีวิตของน้องที่ต้องดูแลย่าของตัวเองวัย 68 ปี ที่ตาบอดทั้งสองข้างตามลำพังผ่าน Tik Tok ทำให้เพียงข้ามคืน มีผู้เข้าชมคลิปนี้ถึงกว่า 10 ล้านวิว และมีคนสนใจสอบถามหาข้อเท็จจริงและอยากช่วยเหลือน้องเตยเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบพบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง จนมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคช่วยเหลือกันจำนวนมาก ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ยอดบริจาคพุ่งหลักล้าน! ดวงตาย่า 1 ข้างมีหวังมองเห็น คนจะส่ง ‘น้องเตย’ เรียนเงียบหาย

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการตาบอดของย่าน้องเตย ดีขึ้นหนึ่งข้างแล้ว พอมองเห็นเลือนราง แต่สภาพบ้านทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการซ่อมแซมหรือปรับปรุงตามที่แต่ละหน่วยงานมาเสนอให้ตอนที่เป็นข่าว

สอบถามครูอุ้ม เบื้องต้นทราบว่า หลังจากเวลาผ่านไป ได้ไปติดต่อ อบต.ในพื้นที่ทราบว่า เงินที่ พมจ.และ อบจ.สัญญาว่าจะให้ ยังไม่ตกลงมา แต่ถ้าได้เงินเมื่อไหร่จะทำการซ่อมแซมทันที และจะซ่อมให้เสร็จภายใน 25 วัน นอกจากนี้ยังพบปัญหาว่า บ้านที่น้องเตยอาศัยอยู่ กลายเป็นชื่อของหลานสามีของย่าน้องเตยไปแล้ว เนื่องจากปู่ของน้องเตย ได้โอนบ้านและที่ดินให้กับหลานไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา

ครูอุ้ม กล่าวอีกว่า ตอนนี้พยายามหาซื้อที่ดินให้น้องเตย ในราคาที่เหมาะสมและให้อยู่ได้สองย่าหลาน แต่เกรงว่าจะทำเกินหน้าที่ จึงร้องขอให้ผู้สื่อข่าวมาเป็นอีกหนึ่งแรงในการตัดสินใจ ซึ่งหากได้ที่ที่เหมาะสม ราคาพอได้ ก็จะขอคำแนะนำกับผู้ที่เกี่ยวข้องจัดซื้อที่ดินและเอางบประมาณราชการมาสร้าง หากไม่พอ เอาเงินส่วนที่ได้รับบริจาคมาเสริม หลังจากนั้นน้องเตย และย่าน้อง คงจะอยู่อย่างมีความสุข ตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป