เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เปิดเผยกำหนดการการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณว่าจะมีขึ้นในวันที่ 10 ส.ค. นี้ ว่า นายทักษิณก็ทวีตข้อความเรื่องนี้ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อได้รับรู้แล้ว ก็ต้องเตรียมการ แต่ยังเร็วไปที่จะบอกว่าเตรียมการไว้อย่างไร โดยจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานมาก่อน เพราะทั้งหมดก็เพิ่งรู้พร้อมกันเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่าจะกลับวันที่ 10 ส.ค. ทีแรกนึกว่าเขาจะกลับมาในวันเกิดคือวันที่ 26 ก.ค. ด้วยซ้ำไป ก่อนหน้านั้นก็มีข่าวลือว่าจะเป็นวันที่ 31 ก.ค. ตนก็เชื่อไปแล้ว แต่เมื่อมาได้ยินจากปากนายทักษิณ ก็เป็นไปตามนั้น

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณกลับมานั้น จะทำให้การเมืองคึกคักขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่รู้อย่างเดียวว่าต้องปรับการเตรียมตัว เพราะวันเปลี่ยนแปลงไป และกลัวว่าจะกลับมาวันที่ 31 ก.ค. ซึ่งเป็นวันหยุด ก็จะยุ่งยากในการปฏิบัติภารกิจหลายอย่าง เนื่องจากศาลปิดทำการ 

ผู้สื่อข่าวถามว่าครอบครัวมีความเป็นห่วงเมื่อนายทักษิณกลับมาถึงประเทศไทย นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้กำชับกรมราชทัณฑ์ว่าให้ดูแลใน 3 เรื่องเป็นพิเศษ คือ 1.ความปลอดภัย ซึ่งตรงนี้จะทำให้นายทักษิณได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนอื่น เพราะนักโทษอื่นไม่มีปัจจัยเสี่ยงตอนนี้ 2.ให้มีความสะดวกตามสมควร แต่ไม่สะดวกมากจนเป็นอภิสิทธิ์ เนื่องจากจะมีคนเข้าเยี่ยม โดยคาดว่าจะมีองค์การระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน และแฟนคลับ มวลชนจำนวนมาก 3.ให้มีความสบายตามสมควร เพราะอายุเกิน 70 ปี และป่วย ก็คงไม่เหมือนกับคนที่อายุ 25 หรือ 30 ปี

เมื่อถามว่าเมื่อนายทักษิณกลับมา แล้วมีผลมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะมีผลอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามนายกรัฐมนตรีคนใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะได้เห็นภาพนายทักษิณ ที่เดินทางมาถึงแล้วปรากฏตัวกับสื่อมวลชนหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอเวลาให้ตนได้ตั้งตัวก่อน ตอนนี้ยังไม่รู้

เมื่อถามว่าหลังจากนายทักษิณเดินทางกลับมาแล้ว มีโอกาสจะขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นสิทธิของผู้ต้องขังทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่มีเงื่อนไขคือต้องเป็นผู้ที่อยู่ระหว่างการรับโทษต้องถูกคุมขัง ในเมื่อเดินทางมาถึงแล้ว ก็ต้องไปรับหมายขังที่ศาลฎีกา แต่ไม่ใช่เป็นการไปฟังคำพิพากษา เพราะคดีจบไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีที่เหลือจะเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนคดีที่เหลือนั้น ตนไม่ทราบว่ามีกี่คดี แต่คดีที่ต้องคำพิพากษาไปแล้วนั้นมี 3 คดีที่ถึงที่สุด โดยคดี 1 จำคุก 2 ปี คดีที่ 2 จำคุก 3 ปี และคดีที่ 3 จำคุก 5 ปี รวมทั้งหมดจำคุก 10 ปี ส่วนที่เหลือมีคดีที่หมดอายุความไปแล้ว และมีคดีที่ยังไม่ฟ้อง แต่เป็นเรื่องเล็กน้อย เช่น หลบหนีออกนอกประเทศแล้วถูกฟ้อง ก็เป็นอีกข้อหาหนึ่ง แต่อาจจะฟ้องหรือไม่ฟ้องก็ได้ ถ้าจะฟ้องต้องฟ้องตอนที่ได้ตัวมา

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณอายุ 74 ปี มีสิทธิพิเศษมากกว่านักโทษทั่วไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีคือ 1. ผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป 2.คนป่วย 3.จะมีสิทธิโอกาสพิเศษบางอย่าง ซึ่งตรงนี้มีเสมอเท่ากันหมด ส่วนที่มีคำถามว่าอายุ 70 ปีขึ้นไปแล้ว จะให้ไปทำงานที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แทนนั้น เรื่องนี้แล้วแต่กรมราชทัณฑ์ ที่ปฏิบัติกับนักโทษมาเยอะแล้วคงไม่ยุ่งยากอะไร

เมื่อถามย้ำว่าคนที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป จะมีอะไรพิเศษกว่าจากนักโทษทั่วไป เช่น การอยู่ห้องพิเศษ นายวิษณุ กล่าวว่า มีโอกาสได้ทั้งนั้น แต่ขอให้ฝ่ายราชทัณฑ์ได้เตรียมการและรายงานมาอีกครั้ง แต่จะไปกักอยู่บ้านไม่ได้ ถึงอย่างไรก็ต้องเข้าเรือนจำ ต่อข้อถามว่าในเรือนจำมีห้องพิเศษแยกเดี่ยวด้วยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี สมัยนายราเกซ สักเสนา และนายวิโรจน์ นวลแข ก็มีหลายคน แต่ไม่ยืนยันว่าในห้องพิเศษนั้นมีเครื่องปรับอากาศด้วยหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่านอนห้องไหน เบอร์อะไร ทั้งนี้นักโทษทั่วไปก็สามารถไปอยู่ในห้องแอร์ เพราะเข้าไปทำงานในห้องแอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกำหนดเวลาหรือไม่ว่าต้องถูกคุมขังเป็นจำนวนกี่วัน จึงจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ใน 24 ชั่วโมงก็ทำได้ แต่ไม่ทราบว่าเขาจะขอหรือไม่ จะไปพูดแทนไม่ได้

เมื่อถามว่าขั้นตอนการขอพระราชทานอภัยโทษต้องเริ่มต้นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อเดินทางกลับมาเรียบร้อยแล้ว เข้าสู่ระบบ และเมื่อเขาพร้อม ก็ต้องเขียนฎีกาอธิบายค่อนข้างยืดยาว เพราะเมื่อยื่นไปแล้ว แต่ถ้าไม่มีโปรดเกล้าฯ ลงมา จะยื่นอีกไม่ได้ภายใน 2 ปี

เมื่อถามว่ามีเกณฑ์กำหนดหรือไม่ว่าต้องถูกคุมขังกี่วัน แล้วแฟนคลับจึงจะเข้าไปเยี่ยมในเรือนจำได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ปกติเยี่ยมได้อยู่แล้ว โดยคนในครอบครัวสามารถเยี่ยมได้ตั้งแต่วันแรก ส่วนการจะไปรับจากสนามบินนั้น ไม่ใช่แค่คนในครอบครัว แต่สื่อมวลชนก็ไปรับได้ และเชื่อว่า สื่อมวลชนแฟนคลับ และมวลชน ก็มีเป็นธรรมดา แต่จะไปรับได้ถึงขนาดไหนนั้นตนไม่รู้ และไม่รู้ว่าอะไร ทักษิณจะมาโดยสายการบินอะไร ลงที่ไหน รู้แค่ว่าเป็นสนามบินดอนเมือง แต่ในสนามบินดอนเมือง ก็ยังมีท่าอากาศยานกองบิน 6 (บน.6) รวมถึงยังมีสายการบินพาณิชย์และเอ็มเจ็ต อย่างน้อยก็ตัดสนามบินสุวรรณภูมิออกไป