กรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายสมชาย จุติกิต์เดชา หรือ หลงจู๊สมชาย ผู้กว้างขวางย่านภาคตะวันออก กับพวก ฐานฟอกเงิน กว่า 200 ล้าน พ.ร.บ.การพนันฯ และลงโทษจำคุกจำเลยที่ 5-6 คนละ 2 ปี กับ 3 ปี 6 เดือน

เมื่อวันที่ 16 พ.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป หลังจากนี้ทางพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษเจ้าของสำนวนจะไปคัดคำพิพากษาฉบับเต็ม และเจ้าของสำนวนจะทำความเห็นว่าคดีสมควรอุทธรณ์หรือไม่ส่งไปยังสำนักงานอัยการคดีศาลสูง จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลอุทธรณ์หรือไม่ โดยจะพิจารณาตามลำดับชั้นบัญชาไปถึงอธิบดีอัยการคดีศาลสูง ซึ่งหลักการจะพิจารณาจากคำพิพากษาของศาลว่าทางอัยการศาลสูงเห็นด้วยตามพยานหลักฐานและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือไม่ ถ้าอัยการไม่เห็นด้วยก็ใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งไปยังศาลอุทธรณ์ตามกฎหมายต่อไป ขั้นตอนจะอยู่ในระยะเวลา 1 เดือน แต่สามารถยื่นขยายระยะเวลาได้ แต่ต้องมีเหตุที่จะแจ้งเป็นคำร้องต่อศาลไป

สั่งยกฟ้อง ‘หลงจู๊สมชาย’ ลักลอบตั้งบ่อนพนัน-ฟอกเงิน ชี้หลักฐานไม่เพียงพอ