เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ น.ส.แก้มยุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี หอบหลักฐานเป็นภาพจากแชตไลน์ พร้อมคลิปเสียง ที่ถูกชายปริศนาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเรียกร้องค่าตอบแทนจากการให้มาจับงู ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายแทน พร้อมทั้งส่งภาพชายเปลือยกายโชว์ของลับให้กับผู้เสียหายทางแชตไลน์ ได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ขอให้ตำรวจติดตามตัวชายปริศนาคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากหวั่นเรื่องความปลอดภัย

จากคลิปเสียงที่ผู้เสียหายบันทึกไว้ พบว่ามีชายหนุ่มปริศนาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะมาช่วยจับงู แต่กลับพบว่า ชายคนดังกล่าวออกมาระบุว่า หากเดินทางมารอบนี้ จะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยยินยอมหรือไม่ ด้านผู้เสียหายพยายามสอบถามข้อมูลการช่วยเหลือให้มาช่วยจับงู แต่ชายปริศนาระบุว่า จะช่วยประสานให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ส่งเจ้าหน้าที่ไปจับงูแทน พร้อมระบุว่าตัวเองชื่อเบล

น.ส.แก้มยุ้ย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายของวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่บ้านพักของตนในพื้นที่ ต.ด่านสำโรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบว่ามีงูเข้ามาในบ้าน ด้วยความกลัว จึงตัดสินใจโทรฯ ไปขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1677 จากนั้นไม่นานก็มีหน่วยงานต่างๆ โทรฯ กลับมาสอบถาม ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เทศบาลด่านสำโรงเข้ามา 3 นาย ไม่นานก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่สวมเครื่องแบบมากันประมาณ 5-6 คน มาสมทบ แต่ทั้งหมดมาแล้วไม่เจอตัวงู จึงพากันกลับ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องและประสานงานท่านหนึ่ง เดินทางมาพบและสอบถาม แต่เนื่องจากไม่พบตัวงูจึงกลับไป ซึ่งในตอนแรกตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนกระทั่งในช่วงบ่ายสองโมงกว่าวันเดียวกัน กลับพบว่ามีชายปริศนาแอดไลน์ทักเข้ามาอ้างตัวชื่อเบล เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย บอกต้องมีค่าตอบแทน ตนก็ไม่รู้ว่ามีค่าใช้จ่ายด้วย ก่อนเขาจะขอค่าตอบแทนการจับงูด้วยการมีเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วก็ส่งรูปโป๊ เป็นภาพชายหนุ่มเปลือยกายโชว์ของลับมา พร้อมระบุว่าจะส่งคนมามีเพศสัมพันธ์ด้วย และข้อความหยาบคายทำนองหื่นลามกอีกมากมาย

น.ส.แก้มยุ้ย เผยต่อว่า หลังจากนั้นตนจึงไปที่เทศบาลดังกล่าว ตามที่ชายปริศนาแอบอ้างว่าทำงานที่นั่น แต่ไปถึงไม่พบตัวและไม่มีเจ้าหน้าที่รู้จักแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลก็ช่วยตนหาตัวชายดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เจอตัว ชายปริศนาก็ยังทักไลน์มาหาตนเรื่อย ตนจึงแกล้งถามกลับไปว่าถ้าไปหาได้ที่ไหน ชายปริศนาก็บอกเทศบาล หลังจากที่ตนเจอแบบนี้ จึงเกิดความกลัว พร้อมคำถามในใจว่า สิ่งที่กำลังเดือดร้อนแล้วโทรฯ ไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานแล้ว กลับพบว่ามีใครไม่รู้ที่อ้างตัวเป็นกู้ภัย ทั้งส่งข้อความมาแบบนี้ ทำให้หวาดกลัวมาก เพราะชายปริศนามีข้อมูลตนทั้งบ้านเลขที่ และเบอร์โทรฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อไปยังกลุ่มไลน์ของกู้ภัยต่างๆ ซึ่งเข้าใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ออกช่วยสังคม แต่อยากให้ตรวจสอบในกลุ่มไลน์ของกู้ภัยว่า มีใครแอบแฝงหาผลประโยชน์หรือมีเจ้าหน้าที่รายใดที่อาศัยช่องทางนี้แสดงพฤติกรรมเช่นนี้กับผู้เสียหาย อีกทั้งยังฝากตำรวจช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังเทศบาลด่านสำโรง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบ นายศราวุธ ทวีเหลือ พนักงานดับเพลิงเทศบาลด่านสำโรง ระบุว่า มีการประสานขอความช่วยเหลือให้ไปจับงูจริง และผู้เสียหายคนเดียวกันจริง มีข้อมูลการประสานเรื่องดังกล่าว ทั้งที่อยู่และเบอร์โทรฯ ของผู้เสียหายมาจริง หลังจากที่งานป้องกันของเทศบาลด่านสำโรงได้รับการประสานมานั้น ก็ส่งเจ้าหน้าที่ชุดแรกไปทั้งหมด 3 นาย ออกไปตรวจสอบหน้างาน แต่พอไปถึงอุปกรณ์ที่จะดำเนินการไม่ครบ จึงประสานกลับมาที่ศูนย์ให้ส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไปสมทบ พอเจ้าหน้าที่เทศบาลไปถึงก็ค้นหาสำรวจบนฝ้าเพดานตามที่ผู้เสียหายแจ้ง แต่ไม่พบตัวงู จึงให้เบอร์ประสานงานกับทางผู้เสียหายไว้ หากพบตัวให้แจ้งกลับมาที่เทศบาลด่านสำโรง หลังจากนั้นจังหวะที่จะกลับศูนย์ พบว่ามีอาสากู้ภัยอีกหน่วยงานจำนวนสองคนเข้าไป แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งผ่านไปช่วงบ่าย พบว่าผู้เสียหายติดต่อกลับมาแจ้งว่ามีการแอบอ้างระบุเรียกเก็บเงิน จึงให้ผู้เสียหายมาพบที่เทศบาลและตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของทางเทศบาล ซึ่งหลังจากที่ทราบเรื่องนี้ ตนในฐานะเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามตามหาตัวชายที่อ้างตัวเป็นกู้ภัย แต่ก็ยังไม่พบ ส่วนข้อมูลที่รั่วไหลของผู้เสียหายนั้น มองว่าอาจจะมีการแจ้งประสานเหตุในกลุ่มอาสา แล้วมีการแชร์ต่อกันอีกที

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม จิตอาสาอีกชุดที่เป็นอาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกัน ที่ผู้เสียหายระบุโทรฯ ขอความช่วยเหลือ พบกับ นายเดชา บุญดี จิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน ระบุว่า หลังจากที่ผู้เสียหายโทรฯ แจ้งเหตุขอความช่วยเหลือที่ศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกันที่สายด่วน 1677 ศูนย์จึงส่งต่อข้อมูลมายังกลุ่มไลน์อาสาของจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในขณะนั้นตนยังทำงานประจำอยู่ พอทราบเรื่องก็อาศัยจังหวะพักงานจึงเดินทางไปพบผู้เสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่พบตัว ตนยืนยันว่าการอออกไปจับงู ไม่มีการเรียกเงินหรือเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ จากผู้เสียหาย หลังจากทราบเรื่องดังกล่าวจากผู้เสียหายเมื่อวานก็พยามตามหาตัวชายคนดังกล่าว แต่ยังไม่พบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าใครบ้างที่แชร์ข้อมูลของผู้เสียหายไปยังกลุ่มไลน์ต่างๆ

ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบและหาเบาะแสของชายปริศนาที่อ้างตัวเป็นกู้ภัยแล้วคุกคามผู้เสียหาย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย เพื่อสร้างความมั่นใจ และประสานการช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว.