กรณีช้างป่า เพศผู้วัย 1 ปี บาดเจ็บนอนดินทุรนทุรายอยู่ในไร่มันสำปะหลัง ของชาวบ้านบริเวณท้ายหมู่บ้านซับสะเดา หมู่ 11 ตำบลบ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย จึงประสานสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา มาช่วยเหลือรักษาและหาสาเหตุของอาการบาดเจ็บของช้าง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เร่งช่วยเหลือ! ‘ลูกช้างป่า’ นอนป่วยปริศนา กลางไร่มันสำปะหลัง

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ส.ค.66 สัตวแพทย์หญิงพรรณราย ว่องวัฒนกิจ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 นครราชสีมา นำทีมสัตวแพทย์ พร้อมปศุสัตว์อำเภอครบุรี และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เข้าให้การรักษาช้างป่า ตัวดังกล่าว คาดน้ำหนักประมาณ 700 – 800 กิโลกรัม โดยทีมสัตวแพทย์ ได้ให้ยาวิตามินประเภทต่างๆโดยเฉพาะวิตามินบี และน้ำเกลือ เพื่อให้ช้างมีแรงมากขึ้นเพราะสภาพของช้างค่อนข้างผอมอิดโรยอย่างมาก พร้อมกับเก็บตัวอย่างเลือดนำส่งไปตรวจหาเชื้อโรคเพื่ออาจระบุที่มาของอาการป่วยในครั้งนี้ได้ แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าช้างป่วยมาจากสาเหตุหรือโรคชนิดใด

จากนั้นทีมสัตวแพทย์ ช่วยกันพยุงตัวช้างเพื่อเปลี่ยนท่าให้ลุกนั่ง เนื่องจากเกรงว่าหากปล่อยช้างนอนอยู่แบบนี้ต่อไป อาจส่งผลให้เกิดอาการแผลกดทับได้ และจากการตรวจสอบร่างกายโดยละเอียดก็ยังไม่พบว่ามีบาดแผลที่จะส่งผลทำให้ช้างตัวนี้ล้มลงได้แต่อย่างใด

สัตวแพทย์หญิงพรรณราย ระบุว่าตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้ช้างป่วยจากสาเหตุอะไร เบื้องต้นพบว่ามีอาการอิดโรยอย่างมาก และจากการสอบประวัติพบว่าช้างตัวนี้หลงฝูงออกมาหากินตัวเดียว ก่อนที่มาหมดแรงอยู่ตรงนี้ ตอนได้ทำการให้วิตามินบี น้ำเกลือ และยาบำรุงเลือด เพื่อให้ฟื้นตัวจากอาการอิดโรยให้เร็วที่สุด ก่อนจะเจาะเลือดส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจังหวัดสุรินทร์เพื่อหาสาเหตุของอาการป่วยในครั้งนี้ที่ชัดเจนต่อไป และหลังจากนี้ก็จะเฝ้าดูอาการและสร้างจุดพักฟื้นให้ช้างตัวดังกล่าวที่บริเวณจุดนี้ไปก่อนจนกว่าจะทำการรักษาช้างให้หายดีและจะดำเนินการผลักดันกลับสู่ป่าในที่สุด