กรณี นายชูศักดิ์ นันทิธัญญธาดา ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายสุนทร พุ่มโพธิ์ทอง กำนันตำบลแสมสาร นายณัฐพงศ์ พิทักษ์กรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.แสมสาร น.ส.อุรุอาริยา บุญนำมา ประมงอำเภอสัตหีบ นายมงกรด อุ่นเรือน เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส และเจ้าหน้าที่ ร่วมลงตรวจสอบพื้นที่พร้อมแจ้งความดำเนินคดี 4 ข้อหากับ นายนฤดล พิสิษฐเกษม อายุ 56 ปี เจ้าของรีสอร์ท และนายอภิชาติ อร่ามรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.แสมสาร หลังเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 66 ได้รับเรื่องร้องเรียนบุกรุกก่อสร้างเขื่อนหินถมหาดทราย เพื่อสร้างแลมป์ขึ้น-ลงเรือ รุกทะเลพื้นที่สาธารณะ บริเวณชายทะเล ด้านหลังรีสอร์ท หมู่ 1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แจ้งอ่วม 4 ข้อหา ‘เจ้าของรีสอร์ท-ผญบ.’ ก่อสร้างบุกรุกทะเลแสมสาร 7 ไร่

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรับทราบจากแหล่งข่าวว่า ขณะนี้ได้มีการนำรถแบ๊กโฮขนาดใหญ่ 1 คัน เข้ามาขุดก้อนหินในทะเล ใส่รถบรรทุก 6 ล้อ 2 คัน ของ บจก.เอแอนด์โอเคร ทรานสปอร์ต แล้วนำก้อนหินออกไปจากในทะเล จึงเข้าไปตรวจสอบพบกับ นายนฤดม หรือเสี่ยสิงห์ เจ้าของ ภูสิงห์ รีสอร์ท และเจ้าของเพอคูล่าฟาร์ม หรือฟาร์มปลาการ์ตูน แสมสารสัตหีบ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สวมกางเกงวอร์มสีน้ำเงิน ใส่เสื้อยืดสีเขียว นั่งบนโขดหิน ควบคุมการขุดปูนคอนกรีตในทะเลออกไปทิ้งด้านบนฝั่ง

สอบถาม นายนฤดม เบื้องต้นเปิดเผยว่า กรณีที่ตกเป็นข่าวดังครึกโครมขณะนี้ ได้พิจารณาแล้วว่ากระทำความผิดจริง ยอมรับว่า การขุด ทำลาย ก่อสร้าง ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานใดๆ จึงมีความผิดมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 พบว่ามีการล่วงล้ำน่านน้ำ ในพื้นที่ 607.35 ตารางเมตร ด้วยการสร้างเขื่อนคอนกรีต เทพื้นคอนกรีตจากริมชายฝั่งยาวออกไปในทะเล 135 เมตร ขุดลอก แก้ไข หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเปลี่ยนแปลงร่องน้ำ ทางเรือเดินของทะเลภายในน่านน้ำไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า เจ้าหน้าที่จึงมีหนังสือ ที่ คค 0316.8/พิเศษ ลงวันที่ 4 กันยายน 2566 ให้เข้าไปชี้แจง และให้ถ้อยคำที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพัทยา เรียบร้อยแล้ว พร้อมให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างทั้งหมดออกไปจากทะเล ภายใน 90 วัน อีกด้วย ตนจึงนำเครื่องมือมาดำเนินการรื้อออกทั้งหมด ตามคำสั่งอย่างเร่งด่วน