ล่าสุดกลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงบนโลกออนไลน์ ซึ่งเรียกได้ว่าแห่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมารีวิวประสบการณ์ไปเกาหลีกับแฟน แต่แฟนกลับติด ตม. เกาหลี และถูกส่งตัวกลับด้วยเหตุผลที่สุดงง โดยเธอลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก @กลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวเกาหลี

ระบุว่า “รีวิวการเดินทางเข้าประเทศเกาหลีรีวิวตมเกาหลีกันค่ะ เราแต่งตัวแบบนี้ไปนะคะ แล้วก็มีกระเป๋าน้องเหลืองแบบนี้แหละไปเลย โหลดใต้เครื่อง ตม.ถามแป้งแค่ 2 ประโยคนะคะ แล้วแป้งก็ผ่านเลย

“How long you stay here?
ตอบ 4 days”

“This is your hotel, right? พร้อมกับหันแผ่น arrival card มาที่เรา ตรงช่องที่อยู่ ที่เราเขียน
ตอบ yes…for the 2 first night and the second one is ibis ambassador Myeongdong.
จากนั้นเจ้าหน้าก็ติดแสตมป์ให้แล้วยื่น พาสปอร์ต ผ่านไปได้เลยค่า (เจ้าหน้าที่ผู้หญิงค่ะ)”

“แต่ของแฟนเราไม่ผ่าน เพราะตอบคำถามตม.ได้ไม่เคลียร์ โดนส่งกลับไทย ด้วยความที่เดินทางครั้งแรก นางเลยตื่นเต้น รู้ทั้งรู้ว่าจะตอบอะไร แต่ปากดันไปตอบไม่รู้ แฟนก็บ่นว่า งงตัวเองโมโหตัวเอง แต่ถือว่าได้เรียนรู้ ไว้มาแก้ตัวใหม่”

“เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเที่ยวประเทศเขาค่ะ และ ไม่สามารถระบุรายละเอียดแจกแจงได้อย่างชัดเจน เลยส่งกลับไทย”

จน.บอกแฟนอีกว่า แฟนดูไม่มีความพร้อมที่จะเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี การสื่อสารไม่สามารถเอาตัวรอดได้ ** ประมาณนี้เลย ที่จำ ๆ ได้”

“ย้ำว่ามันเป็น case แล้วแต่บุคคล ไม่อยากให้คนอ่าน อ่านแล้วคิดว่าตัวเองจะเจอแบบนี้ แค่อยากเป็นอีกนึงประสบการณ์บอกเล่า ไม่ต้องเชื่อ 100% นะคะว่าทุกคนจะเจอเหมือนกัน เพราะคนละคน คนละกรณี”

“ส่วนตัวเราเข้าใจทั้งตัวแฟนแล้วก็เข้าใจทางเจ้าหน้าที่นะคะ ว่าทำไมเขาถึงส่งกลับแล้วก็เข้าใจแฟนมาก ๆ เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกของเขา แล้วก็เขาเป็นคนที่ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้นแบบฟิลเหมือนว่าเราตื่นเต้นมาก ๆ แล้วพอเราทำอะไรผิดไปครั้งแรกปุ๊บทุกอย่างมันก็จะล้ม ๆ ไปหมดเลย”

“ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเราก็ซ้อมก็คุยกันมาค่อนข้างเยอะ เขาโอเคเขาเข้าใจหมดว่าเราจะไปไหนทำอะไรแต่พอไปอยู่หน้าตม.จริง ๆ อ่ะ คือเหมือนเขาตื่นเต้นด้วยความที่แบบเพิ่งลงจากเครื่อง”

“อะไร ๆ ก็แล้วแต่มันเลยทำให้แบบพอได้ทำพลาดไป 1 ครั้ง มันก็คือแตกตื่นไปหมดเลย ก็เลยคุยกันว่า ถือว่าเป็นบทเรียนอย่างน้อย เขาก็ไม่ได้ห้ามเราเข้าประเทศตลอดไป เขาก็บอกว่าเออเราไม่มีประสิทธิภาพพอเฉย ๆ ก็ไว้ครั้งหน้าเราก็อุดรอยรั่วทำทุกอย่างใหม่ก็แค่นั้น ปลอบใจกันไป”

“ดังนั้นนะคะใครที่จะเข้าเกาหลีเนี่ย แต่งตัวดีอาจจะมีส่วนก็ได้แต่ว่าที่แน่ ๆ คือต้องสื่อสารให้รู้เรื่องค่ะให้ชัดเจนว่า จะไปไหน ทำอะไร มายังไงแบบไหน ซึ่งข้อมูลพวกนี้มันเป็นข้อมูลพื้นฐานเลยเพราะว่าเราไม่ได้อยู่ประเทศตัวเองอ่ะ”

“เพราะฉะนั้นเวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศเราต้องรู้ว่าเราจะไปไหนทำอะไรเพื่อที่เราจะได้มีชีวิตรอดในเกาหลีค่ะ แล้วก็สกิลภาษาก็สำคัญ เพราะว่าภาษาอังกฤษของเราถ้ามันอ่อนมาก ๆ สื่อสารไม่รู้เรื่องเนี่ย มันก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าหน้าที่เริ่มคิดแล้วว่าเออควรส่งเขากลับไม่ควรให้เข้ามาในเกาหลี เพราะกลัวว่านักท่องเที่ยวคนนี้จะเอาตัวรอดไม่ได้”

“2 เนี่ยจำนวนเงินก็สำคัญค่ะ มากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ได้นะคะ ก็ต้องแบบพอดีพอกัน แจกแจงให้ชัดเจนว่า มีทั้งเงินสดมีทั้งเงินในการ์ดอะไรยังไง”

“แต่ทั้งนี้สุดท้ายมันก็อาจจะขึ้นกับดวงก็ได้นะคะ เพราะว่าทุกอย่างที่เขียนมาเนี่ยมันก็เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวแล้วก็จะประสบการณ์ของแป้งเองนะ ไม่ได้แบบรู้ลึกรู้จริงอะไร เล่าจากประสบการณ์ที่เจอมาแล้วก็เล่าจากความคิดเห็นของตัวเองนะคะ ขอย้ำว่าเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของเรา”

“เพราะว่ามันก็มีรีวิวว่าแบบบางคนเขาทำทุกอย่างถูกต้องหมดเลยมีทุกอย่างแจกแจงได้หมดแต่ก็ยังโดนส่งกลับเราก็ไปเจอรีวิวนี้มาเหมือนกันเพราะฉะนั้นดวงก็อาจจะมีส่วนก็ได้ค่ะ สู้ ๆ นะคะ”

อย่างไรก็ตามเธอยังได้มาอธิบายเพิ่มเติม ถึงเคสส่งตัวกลับจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย “เคสส่งกลับ เจ้าหน้าที่ฯ จะไปหาตั๋วที่กลับไทยด่วนที่สุดให้เรา และดีลกับสายการบินราคาที่ถูกที่สุดให้ค่ะ และคนที่โดนส่งกลับจะอยู่ในสนามบินตลอด ออกไปไหนไม่ได้ ขากลับก็จะพาไปส่งโซนรอขึ้นเครื่องเลยค่ะ”

“ส่วนกระเป๋าเขาก็จะส่งกลับไปให้ด้วย และค่าตั๋วจ่ายเงินสด เงินไทยหรือเงินวอนเท่านั้น ไม่รับโอน รูด หรือเครดิตการ์ดใด ๆ เงินus, aud ก็ไม่รับค่ะ ค่าตั๋วที่จ่ายล่าสุดคือ 90,000 วอน”

ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก พร้อมเข้ามาแชร์ประสบการณ์ตรงที่เคยเจอ และวิธีแก้ไขปัญหา เพื่อมีหลายคนจะศึกษาก่อนไปเที่ยวประเทศเกาหลีอีกด้วย….