วันที่ 5 ต.ค. นางละออง เชิญรัมย์ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 30 หมู่ 5 ต.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ นำหลักฐานการเบิกถอนเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) สาขาชำนิ อ.ชำนิ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.การุณ แสงอรุณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชำนิ อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้เอาผิดกับแก๊งต้มตุ๋นซึ่งมาด้วยกันรวม 4 คน หลอกเอาเงินไปจำนวน 700,000 บาท แล้วหลบหนีไป

นางละออง เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 ต.ค.) ได้มีคนโทรศัพท์เข้ามาหา ว่าจะขอเช่าบ้านที่ตนปิดป้ายไว้ให้เช่า จึงนัดหมายไปดูห้อง เมื่อไปถึงพบชายผิวคล้ำสูงประมาณ 165 ซม. มากับคนขับรถ ขับรถเก๋งสีดำไม่ติดแผ่นป้าย มาจอดขอดูห้องเช่า จากนั้นได้ตกลงราคาเช่ากันที่เดือนละ 2,500 บาท ชายคนนั้นตกลงจะจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 6 เดือน แล้วชวนคุยบอกว่าจะมาซื้อที่ดินบริเวณบ้านสิงห์ ให้เถ้าแก่ ซึ่งห่างจากบ้านของตนไปประมาณ 5 กม.

โดยชายคนดังกล่าวได้ขอให้ตนส่งไปดูที่ ยื่นข้อเสนอนายหน้าให้ 100,000 บาท จึงนั่งรถไปกับเขา พอไปถึงที่ดินที่อ้างว่าจะซื้อขายกัน ได้มีชายอีกคนออกมาอ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดิน มีการตกลงซื้อขายกันต่อหน้าในราคาไร่ละ 1 ล้านบาท จำนวน 15 ไร่ คิดเป็นเงิน 15 ล้านบาท หลังจากนั้นชายคนที่จะซื้อที่ ควักเงินสดมา 400,000 บาท เอามอบให้กับเจ้าของที่ บอกว่าเป็นค่ามัดจำ เพราะที่ดินสวยมาก แต่ติดปัญหาว่าที่ดินผืนดังกล่าว ติดจำนองอยู่ 2 ล้านบาท ไม่มีเงินไปไถ่ถอน จึงมีการคุยกันเพื่อหาทางออก จากนั้นเจ้าของที่ เสนอให้ค่านายหน้าตนอีก 100,000 บาท สรุปตนจะได้เงินค่านายหน้าทั้งสองฝั่ง คือฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมเป็นเงิน 200,000 บาท

ต่อมาได้มีชายมาปรากฏตัวอีก 1 คน บอกว่ามีเงินแล้ว 1 ล้านบาท พร้อมจะช่วยไถ่ถอนให้ แต่ยังขาดอีก 1 ล้าน ชายทั้งหมดรวม 4 คน จึงหันมามองตน แล้วถามว่า “ยายพอมีไหม” จึงตอบกลับว่ายายไม่มีเงินสดติดตัว มีอยู่ธนาคารแค่ 700,000 บาท หนึ่งใน 4 คน เอ่ยปากขึ้นมาอีกว่า “งั้นผมพอมีเพิ่มอีก 300,000 เพื่อรวบรวมเอาไปไถ่ถอนมาขาย”

จากนั้นทั้งหมดได้พาตนเองเอาสมุดบัญชีของธนาคารไปเบิกกับ ธ.ก.ส.สาขาชำนิ จำนวนเงิน 700,000 บาท เตรียมจะไปไถ่ถอนด้วยกัน ชายทั้งหมดยังแสดงความเป็นห่วง พาตนไปกินข้าว กินยาก่อน แล้วอ้างว่าจะไปทำธุระ สุดท้ายหนีลอยนวล

นางละออง เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนขายที่ดินได้เงิน 1.5 ล้านบาท แบ่งเงินเอามาสร้างห้องเช่าได้ 4 ห้อง เหลือ 700,000 บาท เอาใส่บัญชีไว้ ไม่คิดว่าจะโดนหลอกง่ายๆ แบบนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะมีการป้ายยาให้ตนหลงเชื่อ เพราะมีความรู้สึกมึนงงระหว่างนั่งรถไปด้วยกันกับคนกลุ่มนี้ จึงอยากจะให้ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีโดยเร็ว