สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า สงครามกับกลุ่มฮามาสครั้งนี้ คือการต่อสู้เพื่อรักษาสถานะ และความอยู่รอดของรัฐอิสราเอล และประณามกลุ่มฮามาสกระทำการเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ยุคกลุ่มไอเอส
ทั้งนี้ เนทันยาฮูให้คำมั่นว่า อิสราเอลจะเป็นฝ่ายชนะสงครามครั้งนี้ และเตือนกลุ่มฮามาสว่า “ปฏิบัติการกวาดล้างเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น” ขณะที่กองทัพอิสราเอลระดมทหารกองหนุนเพิ่มเป็น 300,000 นาย และยกระดับการปิดล้อมฉนวนกาซา “เป็นขั้นเด็ดขาด” ตัดน้ำ ไฟฟ้า อาหาร และพลังงาน
ความเคลื่อนไหวที่ยิ่งเป็นการส่งสัญญาณของปฏิบัติการภาคพื้นดิน ว่าน่าจะเกิดขึ้นอย่างเต็มรูปแบบในอีกไม่ช้า ตามการคาดหมายของหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของสหรัฐรายงานว่า ผู้นำอิสราเอลสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าสถานการณ์ตอนนี้ “เจรจาไม่ได้” และยืนยันการพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน ที่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากอิสราเอล ว่ามีกี่คนและเป็นใครบ้าง
ด้านกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ เตือนการสังหารตัวประกัน ทุกครั้งที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา โดยไม่มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ก่อน ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงสหรัฐเตือนกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานอยู่ในเลบานอน และเป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาส อย่าคิดเปิดแนวรบใหม่ในฝั่งเลบานอน
อนึ่ง สหรัฐยังคงเชื่อมั่นและกล่าวว่า อิหร่านช่วยเหลือกลุ่มฮามาส ในการวางแผนแผนโจมตีอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบครั้งนี้ กระนั้น รัฐบาลเตหะรานยังคงยืนกรานปฏิเสธ โดยกล่าวว่า “เป็นความชอบธรรม” ของปาเลสไตน์ และวิจารณ์หน่วยข่าวกรองอิสราเอล “ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์”
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในอิสราเอล นับตั้งแต่ปฏิบัติการของกลุ่มฮามาสเกิดขึ้น เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อยู่ที่มากกว่า 900 ราย จากจำนวนดังกล่าวราว 250 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในเทศกาลดนตรี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,700 คน ด้านปาเลสไตน์ยืนยันผู้เสียชีวิตมากกว่า 700 ราย และได้รับบาดเจ็บเกือบ 4,000 คน.
เครดิตภาพ : AFP
