เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกคนเอาอุจจาระมาปาใส่หน้าร้าน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกับใคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวีระยุทธ นามทะจันทร์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านซ่อมเครื่องยนต์การเกษตรและรถจักรยานยนต์ ตั้งในเขตเทศบาลสตึก โดยนายวีระยุทธ ได้นำภาพในกล้องวงจรปิดของร้านมาให้ผู้สื่อข่าวดูถึงพฤติการณ์ของชายสูงอายุรายหนึ่ง ขี่รถวีลแชร์ไฟฟ้า มาจอดหน้าร้านแล้วปาสิ่งของใส่ร้านอย่างชัดเจน

นายวีระยุทธ เล่าว่า เช้านี้ก่อนตนเปิดร้านมา เห็นอุจจาระกระจัดกระจายเกลื่อนอยู่หน้าร้านมองดูแล้วเป็นลักษณะเหมือนมีการจงใจ จึงเปิดกล้องวงจรปิดดูพบว่าเป็นชายน่าจะพิการเพราะนั่งรถวีลแชร์มา แต่สิ่งที่ตนสงสัยคือตนเองไม่เคยมีศัตรู ไม่เคยทำร้ายใคร แล้วทำไมชายคนดังกล่าวมาทำแบบนี้กับร้านตนได้ จึงลงบันทึกประจำวันเอาไว้ จนกระทั่งตำรวจ สภ.สตึก ต่อมาทราบว่าบุคคลในกล้องวงจรปิด คือ นายสำราญ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี ชาวอ.สตึก จ.บุรีรัมย์

ต่อมานายสำราญ ได้ขี่รถวีลแชร์คันดังกล่าวมาหาที่ร้าน พร้อมกับยอมรับว่าเป็นคนในภาพของวงจรปิดจริง และขอโทษที่ได้กระทำลงไป สาเหตุเพราะไม่พอใจการบริการของร้าน ดูแล้วไม่สมเหตุสมผลที่อ้างว่าตนเองบริการไม่ดี มาขอคำปรึกษาแต่ไม่ตอบคำถาม ไม่คิดว่าเวลานั้นตนเองยุ่งแค่ไหน จริงแล้วเรื่องมันผ่านมาแล้ว 2 วันแล้ว ไม่คิดว่านายสำราญ จะฝังใจถึงขนาดนั้น

ด้านนายสำราญ เปิดเผยว่า ตนเองป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ร่างกายไม่ปกติต้องนั่งรถวีลแชร์ สองวันก่อนได้ขับรถวีลแชร์ไปที่ร้านของนายวีระยุทธ เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับระบบเบรกรถไฟฟ้าของตนเอง แต่นายวีรยุทธเจ้าของร้านไม่สนใจ ทั้งๆที่พ่อของนายวีรยุทธ กับตนเองเป็นเพื่อนรักกัน ยอมรับว่าน้อยใจ นอนคิด 2 คืน ว่าอยากจะระบายความแค้น จึงนำอุจจาระใส่แก้วพลาสติกไปปาใส่ร้าน เพื่อเป็นการสั่งสอนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่น ตอนนี้รู้สึกว่าตนเองทำผิดจึงไปขอโทษเจ้าของร้าน ซึ่งต่อไปนี้ตนเองคงจะไม่เอารถไปซ่อมร้านนั้นอีกแล้ว