จากกรณีการยิงปะทะกันระหว่างตำรวจแดนไทย 54 กับ เสี่ยแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช บนเขาบรรทัดที่เป็นป่าลึก อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ก่อนเสี่ยแป้ง หนีรอดไปได้ โดยระบุว่า สุนัขติดตัวส่งสัญญาณ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้เข้าถึงตัว ทำให้เสี่ยแป้ง ไหวตัวทัน

โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดแดนไทย 54 ที่ขึ้นเข้าไปป่าลึก ถึงจุดที่ตำรวจยิงปะทะกับเสี่ยแป้ง ได้สับเปลี่ยนกำลังเดินลงมาพื้นราบ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องอยู่กลางป่ามาแล้ว 3 วัน ได้เดินทางลงมาที่อ่างเก็บน้ำเขาหัวช้าง จำนวน 12 นาย และทางเจ้าหน้าที่ได้นำสุนัข ที่ชื่อไอ้หมี สุนัขพันธุ์ไทย ที่พักอยู่กับเสี่ยแป้ง ในวันที่มีการยิงปะทะกับตำรวจ เดินทางกลับลงมาด้วย เป็นสุนัขสีน้ำตาลดำและมีลักษณะขาหลังพิการ ขาด้วนตรงข้อเท้าข้างขวา สำหรับสุนัขตัวนี้ หลังจากที่เสี่ยแป้ง หนีไปแล้ว สุนัขก็เข้ามาสนิทและอยู่กับตำรวจตั้งแต่วันที่เสี่ยแป้ง วิ่งหนีไป

สำหรับไอ้หมี สุนัขขาด้วนตัวที่มีข่าวระบุว่า ได้เห่าส่งเสียงให้เสี่ยแป้ง รู้ตัวและคว้าปืนยิงเข้าใส่ตำรวจนั้น ก่อนหน้านี้เป็นสุนัขที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้สำหรับล่าสัตว์ในป่าเขาบรรทัด แต่ขณะที่เจ้าของนำไอ้หมี เข้าป่าไปล่าหมูป่าและหาตัวนิ่ม พร้อมกับสุนัขตัวอื่นอีก 2 ตัว แต่บังเอิญว่า ขณะวิ่งไล่หมูป่า ที่บริเวณใกล้ๆ น้ำตกในเขต จ.สตูล ไอ้หมี ก็ได้หายตัวไป และไม่ได้กลับมาบ้าน แม้เจ้าของออกตามหา แต่ก็ไม่พบตัวอีกเลย

กระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน ไอ้หมี ได้เดินเข้าไปในบ้านตระ ในลักษณะข้อเท้าขวาขาด ยังมีบาดแผล ชาวบ้านสันนิษฐานว่า ไอ้หมี วิ่งไล่หมูป่าไปจนกระทั่งติดแร้ว ซึ่งเป็นที่ดักสัตว์ของชาวบ้าน ที่ดักไว้รอบๆ บ้านตระ และไอ้หมีก็ดิ้นจนกระทั่งมีบาดแผลเน่าเปื่อยและข้อเท้าหลุดจนเป็นหมาพิการ ก่อนที่จะมาอยู่กับชาวบ้านในบ้านตระ จากนั้นได้มาพบกับทีมของเสี่ยแป้ง ไอ้หมีก็เดินตามเข้าป่า ไปพักอยู่กับเสี่ยแป้ง ที่เพิงพักกลางป่า จนกระทั่งมีเสียงปืนยิงต่อสู้กัน ต่างคนต่างวิ่งหนีเข้าป่า และไอ้หมี ก็กลับออกมาอยู่กับตำรวจชุดแดนไทย 54 ชุดที่ปะทะกับเสี่ยแป้ง เมื่อกำลังมีการสับเปลี่ยน ไอ้หมี คู่หูของเสี่ยแป้ง ก็เดินตามเจ้าหน้าที่ลงมายังอ่างเก็บน้ำเขาหัวช้างด้วย.