จากกรณีที่ผู้ปกครองของโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ได้โพสต์เฟซบุ๊กกรณีมีการบ้านลูกให้ระบายสีอาชีพในฝัน พร้อมให้กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้ปกครองกระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์มีบริษัทประกันโทรฯ มาบอกได้เบอร์ตามในใบงาน จึงตั้งคำถามถึงความเหมาะสมและความปลอดภัย ซึ่งต่อมาทางโรงเรียนได้มีการชี้แจงและพูดคุยกับทางผู้ปกครอง ยืนยันทางโรงเรียนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับใบงานดังกล่าว โดยเกิดจากการที่มีพนักงานบริษัทแต่งตัวดีไปหาหัวหน้าสายชั้นเรียน พร้อมกับแนะนำตัวเองว่ามาจากธนาคาร มีกิจกรรมให้ระบายสีอาชีพในฝัน เพื่อรับกระปุกออมสินจากทางธนาคาร โดยทางโรงเรียนเห็นถึงการที่เด็กนักเรียนจะได้ฝึกทักษะการระบายสีแล้ว ยังได้รับกระปุกออมสินจากทางธนาคารที่จะสามารถส่งเสริมในเรื่องของการออมได้ด้วย จึงได้มีการแจกให้กับนักเรียนได้ระบายสีและนำกลับไปที่บ้าน กระทั่งเกิดเป็นประเด็นดังกล่าวขึ้นมาตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น เปิดเผยว่า โรงเรียนได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงและทราบว่าเป็นการเข้ามาของพนักงานซึ่งอ้างตัวว่ามาจากธนาคารและมีข้อมูลที่แม่นยำในเรื่องของชื่อหัวหน้าสายชั้นเรียน โดยทำทีว่าตัวเองได้รับอนุญาตจากทางผู้บริหารโรงเรียนแล้ว ทำให้หัวหน้าสายหลงเชื่อเพราะมองในเรื่องของประโยชน์ที่นักเรียนจะได้เป็นหลัก ทั้งเรื่องของการฝึกระบายสี ได้ฝึกคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจในเรื่องอาชีพในฝัน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเรื่องการออมเงินด้วย

ได้ไง!ใส่ข้อมูลส่วนตัวใน ‘ใบงานการบ้านลูก’ ส่งให้รร.แต่ถึงมือคอลเซ็นเตอร์

“ตลอดทั้งวันของเมื่อวานจนถึงช่วงค่ำ มีทางบริษัทธนาคารหลายแห่งโทรฯ มาขอข้อมูลว่ากระปุกออมสินเป็นแบบไหน และทำการตรวจสอบก่อนที่ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ส่งหนังสือชี้แจงมาในไลน์ส่วนตัวของผม โดยข้อความในหนังสือชี้แจงระบุว่า “จากกรณีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน เรื่องการกระทำให้ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนตัวจากการบ้านระบายสีของเด็ก รร.อนุบาลในจังหวัดขอนแก่นเพื่อการขายประกัน บมจ. XXX ประกันชีวิต ในฐานะบริษัทประกันชีวิตขอร่วมชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ทราบเรื่องดังกล่าว ในฐานะหนึ่งในบริษัทประกันชีวิต ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบทันทีและพบว่าบุคคลที่กระทำการดังกล่าวเป็นตัวแทนที่มีสัญญากับบริษัท ขณะนี้บริษัทฯ กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด หากพบว่าตัวแทนของบริษัทมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและดำเนินงานขายที่ขัดต่อหลักการทางจริยธรรมและข้อกำหนดของบริษัทฯ บริษัทฯ จะมีมาตรการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อไป บริษัทฯ ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าบริษัทฯ ไม่มีนโยบายในการได้มาซึ่งข้อมูลของผู้มุ่งหวังด้วยการใช้วิธีการเช่นนี้” ซึ่งหนังสือชี้แจงจากบริษัทประกันดังกล่าวจะส่งมาที่โรงเรียนอีกครั้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษร” ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่น กล่าว

ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนมีมาตรการคัดกรองบุคคลภายนอกแน่นหนา จะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาในโรงเรียนหากไม่ใช่ผู้ปกครองและมีเรื่องด่วนจริงซึ่งจะต้องมีการสื่อสารผ่านครูประจำชั้นอยู่แล้ว อีกทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ รปภ.และกล้องวงจรปิด ตรวจสอบที่บริเวณหน้าโรงเรียนอีกชั้นด้วย แต่ในวันดังกล่าวนั้นทางพนักงานซึ่งแต่งตัวดีอ้างว่ามาจากธนาคารเดินตรงไปหาหัวหน้าสายชั้นเรียน ป.1 เรียกชื่อก็ถูกต้อง และใช้วาจาคำพูดที่ทำให้หัวหน้าสายหลงเชื่อว่าได้รับอนุญาตจากผู้บริหารแล้ว ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียนคนเดียวเท่านั้น

โดนหลอก! ผอ.รร.อนุบาล ขอโทษแล้ว พร้อมแจงปมผู้ปกครองโวยส่งข้อมูลส่วนตัวให้ประกัน

“หากเป็นเรื่องของบุคคลหรือองค์กรภายนอกจะขอเข้ามาทำกิจกรรมส่งเสริมการเรียน แต่ในกรณีนี้กระทำการโดยผิดหลักจรรยาบรรณ ทำให้ครูหลงเชื่อและมีการแจกใบงานดังกล่าวให้กับนักเรียนในระดับชั้น ป.1-ป.3 ซึ่งก็มีนักเรียนนำกลับไปทำและนำมาส่งครูบางส่วน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ส่งคืนให้กับครูเพราะทราบข้อเท็จจริงว่าคืออะไร และสามารถสอบถามครูประจำชั้นได้ตลอด กระทั่งผ่านไป 1 สัปดาห์ บริษัทประกันได้โทรฯ ถามตามข้อมูลดังกล่าวกระทั่งมีผู้ปกครองนำมาโพสต์ในโซเชียล ซึ่งมองอีกมุมก็เป็นเรื่องที่ดี ทางโรงเรียนและทางผู้ปกครองจะได้มีส่วนร่วมกันในการเป็นหูเป็นตาอีกทางหนึ่งด้วย และภายหลังเกิดเรื่องดังกล่าวก็ได้มีการเชิญผู้ปกครองทุกคนมาพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว โดยทางผู้ปกครองเข้าใจ และทราบในเจตนาของทางโรงเรียนดีแล้ว โดยทางโรงเรียนเองจะเข้มงวดมาตรการคัดกรองบุคคลภายนอกมากขึ้นอีก และผู้ที่จะอนุญาตให้บุคคลอื่นเข้ามาในโรงเรียนได้จะต้องเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ในส่วนกรณีที่เกิดขึ้นทางโรงเรียนได้มีการปรึกษาทางฝ่ายกฎหมายเพื่อจะเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานว่าทางโรงเรียนไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด และหากผู้ปกครองหรือหน่วยงานองค์กรใดได้รับความเสียหายจากกรณีที่เกิดขึ้น ทางโรงเรียนเองก็พร้อมสนับสนุนข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก” ผอ.รร.อนุบาลขอนแก่น กล่าว