เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องทุกข์ จากนายไทด์ เจ้าของโรงงานผลิตเหล็กแห่งหนึ่ง ภายใน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ว่า ที่โรงงานถูกคนร้ายขโมยสายไฟฟ้าแรงสูงภายในโกดังของโรงงาน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงดึกต่อเนื่องเช้าของวันที่ 18 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา เพื่อให้เป็นสื่อกลางทั้งเตือนภัยและฝากไปยังตำรวจช่วยติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว โดยภาพจากกล้องวงจรปิดบางส่วนภายในโรงงานผลิตเหล็กแห่งนี้ สามารถจับภาพได้ขณะที่มีคนร้ายอย่างน้อย 1 คน ย่องปีนกำแพงข้างด้านหลังของบริษัทเข้ามาก่อเหตุขโมยสายไฟฟ้าแรงสูงภายในโกดังของโรงงาน

หลังรับเรื่องราว ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เกิดเหตุพบกับ นายไทด์ ได้พาไปดูจุดที่คนร้ายปีนกำแพงเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งพบว่าเป็นด้านหลังของโรงงาน ซึ่งติดกับที่ดินไร่สวนของส่วนบุคคล โดยคนร้ายปีนข้ามกำแพงของที่ดินไร่สวนของชาวบ้านก่อนจะมาปีข้ามกำแพงของโรงงานเข้ามาก่อเหตุภายในโกดังของโรงงาน

นายไทด์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ทางบริษัทไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด เพราะไม่เคยถูกก่อเหตุลักทรัพย์มาก่อน อีกทั้งเป็นโรงงานที่อยู่ด้านในค่อนข้างลึกและห่างจากถนนหลักพอสมควร ด้านข้างและด้านหลังถูกล้อมด้วยไร่สวนของชาวบ้านจึงไม่เคยมีคนร้ายกล้าบุกเข้ามาถึงในโกดังโรงงาน จนมีคนร้ายมาก่อเหตุครั้งแรก วันที่ 11 ธ.ค. จากนั้นก็เข้ามาก่อเหตุอย่างต่อเนื่องเรื่อยมา จึงมีการนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเพื่อจับภาพคนร้าย และพบว่าคนร้ายกลับรู้มุมกล้องและสวมไอ้โม่งและชุดคุมเตรียมการมาอย่างดี เข้ามาก่อเหตุซ้ำ ที่ผ่านมาแจ้งความกับตำรวจของ สภ.บางพลี ไปแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรคืบ ตนเองและคนในบริษัทต้องจ้างคนภายนอกมานอนเฝ้าและดักซุ่มคนร้าย แต่ก็ตามจับตัวกันไม่ทัน ตอนแรกคิดว่าคนร้ายจะเกรงกลัว แต่กลับพบว่าคนร้ายมีการเฝ้ามองความเคลื่อนไหวภายในโรงงานพอทราบว่าโกดังนี้มีคนเฝ้าก็ปรับเปลี่ยนย่องเบาไปก่อเหตุอีกโกดัง จนสร้างความเสียหายค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของการติดตั้งสายไฟใหม่และการสูญเสียรายได้จากลูกค้า เนื่องจากระบบไฟถูกตัดสายไฟไปทำให้เดินการผลิตสินค้าไม่ทัน ตนเองในฐานะของผู้เสียหายและถูกคนร้ายมาก่อเหตุติดกันหลายครั้ง พอเกิดเหตุก็ไปแจ้งความเพื่อหวังให้ตำรวจตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งพอเกิดเหตุกลับพบว่าการประสานงานการเข้าเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปอย่างล่าช้ามาก จนตนเองต้องเป็นฝ่ายไปติดต่อ กองพิสูจน์หลักฐาน ด้วยตนเองเพื่อขอให้เข้ามาเก็บหลักฐานของคนร้าย

เจ้าของโรงงาน บอกอีกว่า จนผ่านมาล่าสุดยังไม่มีเบาะแสของคนร้ายแต่อย่างใด อีกทั้งใกล้จะเข้าช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ทางบริษัทจะต้องหยุดงานติดต่อกันหลายวันหากยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ก็จะกลายเป็นขวัญผวาให้กับตนเองและครอบครัวอีกทั้งอาจจะต้องจ้างบุคคลภายนอกมาเฝ้าโกดังโรงงานแทน ซึ่งก็จะทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัวต้องพากันหาคนมาเฝ้าโรงงานด้วยตนเอง จนต้องอดหลับอดนอน เคยประสานงานไปกับทางตำรวจให้มาดักซุ่มจับคนร้ายแต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือแต่อย่างใด ตนเองจึงอยากฝากไปยังตำรวจให้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจรวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่.