เมื่อวันที่ 5 ม.ค. พ.ต.ต.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ สว.สอบสวน สภ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้นำตัว นายทูน อายุ 33 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากเมื่อค่ำวานนี้ (4ม.ค.) ได้ก่อเหตุใช้อีปิก หรืออีเตอร์ ซึ่งเป็นเหล็กใช้สำหรับขุดดินหรือหิน ฟันที่ศีรษะพ่อแท้ๆ ของตัวเอง อายุ 68 ปี จนเสียชีวิตภายในบ้าน ก่อนจะหลบหนีไป

จากการสอบสวน นายทูน ให้การรับสารภาพว่า ได้กระทำพ่อตัวเองจริง สาเหตุเพราะไม่พอใจที่พ่อมักจะบ่นตนเป็นประจำว่าไม่ล้างจานหลังกินข้าวเสร็จ ปล่อยให้พ่อแม่ล้างให้ทุกครั้ง ยอมรับว่าอารมณ์เสีย โดยเฉพาะพ่อมาบ่นให้ตอนที่ตนกำลังดูมวยในทีวี จึงเกิดอาการหน้ามืด คว้าอีปิกที่อยู่ใกล้มือไปฟันพ่อดังกล่าว หลังก่อเหตุสำนึกผิด เพราะไม่คิดว่าพ่อจะเสียชีวิต จึงเอาอีปิกไปทิ้งลำห้วยแล้วเดินเลาะไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตำรวจตามมาจับกุมตัว

โดยช่วงหนึ่งของการทำแผน ตำรวจได้พานายทูนมากราบศพพ่อที่ตัวเองเป็นคนฆ่าทั้งน้ำตา ทำให้แม่ซึ่งรับสภาพไม่ได้ ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ เพราะผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตคือคนผู้เป็นที่รักทั้งคู่

ผู้เป็นแม่ เล่าว่า สามีมักจะบ่นลูกชายเป็นประจำเรื่องไม่ล้างจาน ครั้งนี้ลูกชายไม่พอใจมาก แม่พยายามจะเข้าไปห้าม บอกว่าไม่เป็นไร “แม่จะล้างเอง” ก็ยิ่งทำให้สามีไม่พอใจ คว้าท่อนไม้หวังจะเอาไปตีลูก ตนเข้าไปขวางจึงถูกไม้ตีหัวได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์เริ่มชุลมุน ลูกชายได้คว้าเอาอีปิกมาทำร้ายพ่ออีกที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่โทษใครถือว่าเป็นเวรกรรม

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา นายทูน “ฆ่าบุพการีโดยเจตนาและทําร้ายร่างกายบุพการีเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป