เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 10 ม.ค. ร.ต.ท.พุทธพงศ์ ยกชม รองสว.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในท่อสายสื่อสารกลางถนน บนถนนเลียบคลองห้าธัญบุรี-คลองหลวง หน้าศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี หมู่ 2 ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสาขาธัญบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนน พบถนนแอสฟัลติกคอนกรีต พื้นถนนถูกขุดออก โดยที่บริเวณฝาท่อเหล็กของสายสื่อสารความกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร ถูกเปิดออก โดยที่ฝาถูกวางไว้บนกองแอสฟัลติกคอนกรีตที่ถูกขุด ภายในท่อซึ่งมีน้ำอยู่ภายใน พบร่างผู้เสียชีวิตลักษณะจมน้ำอยู่ จึงประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสาขาธัญบุรี เข้ามาตรวจสอบว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลหรือไม่ เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจึงหย่อนตัวลงไปภายในท่อ ก่อนจะใช้ผ้าขาวคล้องร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากท่อดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นที่อับอากาศเกรงจะเกิดอันตราย โดยพบเป็นชายอายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมถุงมือสีเทา และสวมทับด้วยเสื้อสะท้อนแสงสีเขียวขาว ภายในตัวไม่พบเอกสารที่ทางราชการออกให้ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตเพราะในท่อเป็นพื้นที่อับอากาศ

ทางด้านนายชิษณุพงศ์ มุกดา อายุ 38ปี เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดปทุมธานี เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังจะเข้าบ้าน โดยมีเพื่อนคนงานของผู้เสียชีวิตวิ่งมาเรียกตนเองเพื่อให้ช่วยเพื่อนเขาที่อยู่ภายในท่อ จึงวิ่งมาดู เมื่อมองลงไปในท่อพบเห็นเสื้อสะท้อนแสง จึงถามว่าทำไมไม่ลงไปช่วย แต่กลุ่มเพื่อนคนงานก็ไม่ยอมลงไป ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะโวยวายว่ามีคนตาย ตนจึงรีบโทรฯ แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้มาช่วยเหลือ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานจะเก็บกรวยยางที่วางไว้กลางถนน แล้วขับรถกระบะออกจากจุดเกิดเหตุไปทันที โดยตนเห็นมีรถกระบะ 2 คัน ชายหญิงมากกว่า 6 คน และ จยย. อีก 1 คัน ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นโซนิค โดยทั้งหมดขับรถมุ่งหน้าไปยังถนนเลียบคลองห้า มุ่งหน้าเขตอำเภอคลองหลวง และไม่มีการกลับมาดูเพื่อนที่เสียชีวิตเลย กระทั่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและนำร่างผู้เสียชีวิตเคลื่อนย้ายไปโรงพยาบาลแล้ว

“ยังแปลกใจว่าทำไมเพื่อนร่วมงานไม่กลับมาดู หรือให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเลย แต่ผมได้ถ่ายภาพรถและทะเบียนของเพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตไว้ โดยส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการหาสาเหตุที่แท้จริงว่า เกิดจากสาเหตุใดและเป็นของหน่วยงานใด” นายชิษณุพงศ์ กล่าว

ร.ต.ท.พุทธิพงศ์ กล่าวว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐาน และนำหลักฐานจากภาพถ่ายที่ผู้เห็นเหตุการณ์ถ่ายไว้ได้ ซึ่งเป็นทะเบียนรถกระบะ ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบเพื่อประสานเจ้าของรถมาทำการสอบปากคำ พร้อมทั้งให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.