นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานการประชุมโครงการประชุมขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไตรมาส 3-4 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม โดยมีนายวิฑูรย์ นวลนุกูล นายชยชัย แสงอินทร์ และนายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และคณะผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมพิธีเปิดการประชุม มีนายนพรัตน์ ธำรงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองแผนงาน กล่าวรายงาน กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้บริหารส่วนกลาง พัฒนาการจังหวัด 76 จังหวัด ผู้ตรวจราชการกรม ผู้อำนวยการสำนัก สถาบัน ศูนย์ กอง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนผู้เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 132 คน โดยก่อนการประชุมอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติองค์กรคุณธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทั้ง 3 ระดับ คือ ระดับคุณธรรมต้นแบบ จำนวน 10 หน่วยงาน ระดับพัฒนาคุณธรรม จำนวน 1 หน่วยงาน และระดับส่งเสริมคุณธรรม จำนวน 3 หน่วยงาน

นายสยาม ศิริมงคล กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานของกรมการพัฒนาชุมชน มีพันธกิจหลักในการทำให้ประเทศไทยบรรลุสู่เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธาน ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด ซึ่งที่ผ่านมากรมการพัฒนาชุมชนได้ทำงานตอบโจทย์สำคัญและท้าทายของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ได้บรรลุผลสัมฤทธิ์เป็นอย่างดีและได้รับการยกย่องชื่นชม การยอมรับจากองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ด้วยดีเสมอมา

ผลสำเร็จนี้ ก็ด้วยความวิริยะ อุตสาหะของข้าราชการกรมการพัฒนาชุมชน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ทำงานกับพี่น้องประชาชน ยืนเคียงข้างประชาชน ช่วยเขาเพื่อให้เขาช่วยเหลือตนเองได้ นำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติ ต่อไป และเชื่อมั่นว่าการทำงานใด ๆ จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีนั้น ก็สืบเนื่องจาก การถ่ายทอดและสื่อสารแนวนโยบาย วิธีการปฏิบัติ ที่ชัดเจน แม่นยำ มีการกำหนดค่าเป้าหมายและตัวชี้วัดในการปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รวมทั้ง การสร้างความสุขในการทำงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดทัศนคติตนเอง ให้มีความพร้อมในการทำงานเชิงรุก และพัฒนาตนเองด้วยองค์ความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ และการดำเนินงานต้องกระทำด้วยความสุจริตและความโปร่งใส หากทุกท่านกระทำได้ดังกล่าวข้างต้น ก็เชื่อมั่นได้แน่ว่า ความสำเร็จของการพัฒนาชุมชนจะส่งผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน

นายสยาม ยังกล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไตรมาส 1 และ 2 ที่ผ่านมา กรมการพัฒนาชุมชน ได้ขับเคลื่อนงานผ่านแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ภายใต้วิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนภารกิจภายใต้แผนปฏิบัติราชการดังกล่าว ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมไปถึงการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย “มุ่งเน้นการลดรายจ่าย สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ” เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน ทั้งในระดับครัวเรือนและชุมชน โดยกำหนดมาตรการเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน เช่น การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต การใช้ประโยชน์จากทุนชุมชน การพักหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมทั้งกำหนดมาตรการ และแนวทางเพื่อเพิ่มรายได้ การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเป็นมาตรการเชิงรุกที่เน้นป้องกันและเสริมสร้างความเข้มแข้งของชุมชน และการพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย มีสมรรถนะสูง และมีธรรมาภิบาล บุคลากรมีอุดมการณ์ และเชี่ยวชาญในงานพัฒนาชุมชน

นายสยาม กล่าวอีกว่า จากการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยมีกรอบนโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศ ตามกรอบความเร่งด่วน คือ กรอบระยะสั้น รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง ประกอบกับการเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว กรอบระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลจะเสริมขีดความสามารถให้กับประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ให้กับประชาชนทุกคน ประกอบกับเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” มุ่งเป้าพัฒนาประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล และสุขภาพ อาหาร การบิน การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เทคโนโลยี และการเงิน ดังนั้น กรมการพัฒนาชุมชน จึงได้ดำเนินโครงการประชุมขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไตรมาส 3-4 เพื่อให้การขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนเกิดผลสัมฤทธิ์ สนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพ มีรายได้ และมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุข

จากนั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้เป็นประธานการประชุมกรมการพัฒนาชุมชน ครั้งที่ 4/2567 โดยได้มีประเด็นเน้นย้ำ 3 เรื่อง คือ โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของกรมการพัฒนาชุมชน งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ของกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งต้องดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ทำให้บรรลุตัวชี้วัดงบประมาณรายจ่าย โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนและตอบสนองนโยบายรัฐบาล นโยบายกระทรวงมหาดไทย และยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน และ 10+1 ภารกิจสำคัญ ไตรมาสที่ 3 หลังจากนั้น ได้รับฟังการรายงานผลการดำเนินงานตามภารกิจกรมการพัฒนาชุมชน ในไตรมาสที่ 1 และ 2 โดยผู้อำนวยการสำนัก สถาบัน ศูนย์ กอง และผลการดำเนินงานการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของกรมการพัฒนาชุมชน ได้แก่ การดำเนินหมู่บ้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัด โดยพัฒนาการจังหวัดหรือผู้แทน ทั้ง 76 จังหวัด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน ให้เกิดผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567