เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 11.31 น. ซึ่งเป็นเหตุการณ์ขณะ น.ส.นิพาดา ลาภพูนอายุ 20 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปี 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กำลังเดินข้ามทางม้าลายบริเวณถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ข้างมหาวิทยาลัยฯ จากนั้นถูกรถจักรยานยนต์ที่วิ่งในเลนซ้ายเฉี่ยวชนอย่างแรง ทราบชื่อคนขับ นายพงษ์พัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ไรเดอร์เอกชนแห่งหนึ่ง จนผู้เสียหายกระเด็นไกลหลายเมตร ได้รับบาดเจ็บนอนฟุบบนถนน

นายเอกภพ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้มีการกดสัญญาณไฟก่อนข้ามทางม้าลาย และมองดูทางทั้งซ้ายและขวา ซึ่งในวันเกิดเหตุรถยนต์ที่อยู่เลนกลางก็จอดนิ่งตามสัญญาณไฟทางข้าม แต่ปรากฏว่า รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขี่รูดเลนซ้ายมาและชนเข้ากับ น.ส.นิพาดา อย่างแรง จนผู้เสียหายกระเด็นไปนอนฟุบอยู่บนถนน จากนั้นผู้เสียหายได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ โดยใช้ พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ เบิกจ่ายได้ 30,000 บาท เนื่องจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวอ้างว่าไม่มีเงิน ให้ไปคุยกับทาง พ.ร.บ.ฯ เอง และผู้เสียหายก็ต้องใช้ประกันอุบัติเหตุของตัวเองจนหมด สุดท้ายจึงต้องการกลับไปใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรสาคร แต่ผู้เสียหายก็เบิกไม่ได้ เนื่องจากขณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการชี้ว่าใครถูกใครผิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว เบ็ดเสร็จแล้วผู้เสียหายต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเกือบ 50,000 บาท

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า ทางคู่กรณีก็ไม่ได้มาช่วยเหลือเยียวยาอะไรน้องผู้เสียหาย เพราะอ้างว่าไม่มีเงิน ปัดให้ไปคุยกับ พ.ร.บ.ฯ เอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการล่าช้า ตนมองว่า ความล่าช้าในกระบวนการยุติธรรมก็คือความไม่ยุติธรรม ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) ตนจะพา น.ส.นิพาดา ผู้เสียหายและครอบครัว ไปเข้าพบ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม (ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) เพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญา รวมถึงขอให้กระทรวงยุติธรรมประสานเรื่องความคืบหน้าทางคดีไปยัง พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8 เพื่อสอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ให้เร่งรัดดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุและแนะนำแนวทางการให้ความช่วยเหลือทางคดีกับผู้เสียหายหลังจากนี้ เพราะเวลาผ่านมา 2 เดือน ตนถือว่าค่อนข้างมีความล่าช้ามาก น้องผู้เสียหายก็ยังต้องใช้ไม้ค้ำพยุง เดินกะเผลก เนื่องจากมีเหล็กดามที่ขา ยังไม่สามารถกลับไปเรียนได้ และยังต้องผ่อนค่ารักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล โดยที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาเลย

นายเอกภพ ยังกล่าวอีกว่า ญาติของผู้เสียหายยังไปได้ยินที่โรงพยาบาลว่า คู่กรณีมีการพูดว่าก้มมองโทรศัพท์ ทั้งนี้ข้อจริงเท็จอย่างไรตนยังไม่ทราบ แต่ทางญาติยืนยันว่าได้ยินเช่นนั้น

ด้าน น.ส.นิพาดา กล่าวว่า ตนอยากฝากถึงคู่กรณีให้เข้ามาช่วยเหลือดูแล ไม่ใช่หายไปเช่นนี้ รวมทั้งหลังจากนี้ ขอให้ขับขี่รถอย่างระมัดระวัง อย่าประมาท อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ตนก็มีบ้างที่รู้สึกหวาดกลัวในการข้ามถนน ยังไม่ค่อยกล้าข้าม ทั้งนี้ตนยืนยันว่า ในวันเกิดเหตุได้กดสัญญาณไฟข้ามทาง และสัญญาณก็ขึ้นสีเขียว ตนจึงเดินข้าม จากนั้นก็ถูกชนหมดสติกลางถนน รู้สึกตัวอีกทีคืออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว