จากกรณีชาวต่างชาติพาสิงโตนั่งรถเบนท์ลีย์ เปิดประทุน แล้วขับตระเวนในเขตพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี แล้วมีคนถ่ายคลิปนำไปโพสต์ในโลกออนไลน์ จนเป็นกระแสฮือฮาบนโลกออนไลน์ ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

วันที่ 25 ม.ค. ล่าสุดวานนี้ (24 ม.ค.) ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา, ตำรวจป่าไม้, ตำรวจ ตม.ชลบุรี, ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา, เจ้าหน้าที่  สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 354/42 ภายในซอยเขาพระตำหนัก 5 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่มีการเลี้ยงสิงโต แล้วพาขึ้นรถเบนท์ลีย์ แล้วขับตระเวนชมวิวในพื้นเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่มีการสนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบมาแล้ว 1 ครั้ง โดยพบสิงโต เพศเมีย (ตามที่ปรากฏในโลกโซเซียล) ขังอยู่ในกรง แต่เจ้าของไม่ออกมาแสดงตัว โดยมีการมอบหมายให้ทนายความ ออกมาให้ข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนจะพาตำรวจและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเจ้าของสิงโตรายนี้ มีการนัดหมายเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูล แจงรายละเอียดอีกครั้ง

สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อมูลสิงโตตัวนี้ มีการแจ้งครอบครองสัตว์ป่าควบคุมประเภท ก (สิงโต) ไว้ที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จ.ราชบุรี ปัจจุบันมีอายุประมาณ 9 เดือน เพศเมีย หมายเลขไมโครชิพรหัสประจำตัว 900219001878562 น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ชื่อผู้ครอบครอง คือ นางสาวปูเป้ (นามสมมุติ) และอยู่ในระหว่างแจ้งขออนุญาตนำมาครอบครองที่บ้านเลขที่ 354/42 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ส่วนชาวต่างชาติผิวสีที่ปรากฏในคลิป มีการพาสิงโตนั่งรถเบนท์ลีย์ มูลค่ากว่า 20 ล้าน พาตระเวนชมวิวไปรอบๆ เมืองพัทยา เบื้องต้น พบว่าเป็นนักธุรกิจชาวศรีลังกา อายุ 53 ปี ปัจจุบันเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ส่วนในเรื่องของการ นำสิงโตขึ้นรถหรู ไปเที่ยวตระเวนนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิงโตตัวนี้ในด้านไหน ทำไมถึงนำสิงโตออกไปตระเวนในเมืองแบบนั้น ซึ่งเข้าข่ายความผิดในเรื่องของ พ.ร.บ.เคลื่อนย้ายสัตว์ดุร้าย โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบ

นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เปิดเผยว่า สำหรับการเลี้ยงสิงโตเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ เพราะเป็นสัตว์ป่าควบคุมในประเภท ก (สิงโต) แต่ต้องมีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีที่เป็นปัญหาที่มีการนำขึ้นบนรถเปิดประทุนพาชมวิวทั่วเมืองพัทยานั้น เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และถือเป็นความผิด เพราะสิงโตเป็นสัตว์อันตรายที่ต้องมีการควบคุม มิฉะนั้นอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ที่ใกล้ชิดได้

อีกประการหนึ่งคือเรื่องของใบอนุญาตตรงนี้ กำลังรอตรวจสอบว่าเลขที่ไมโครชิพของสิงโตตัวนี้ ตรงกับที่ขออนุญาตไว้หรือไม่ ถ้าตรงกันก็ถือว่าถูกต้องส่วนผู้ครอบครอง ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร ก็อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยานี่เอง แต่การเคลื่อนย้ายสิงโตมาที่เมืองพัทยา ตรงนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า ทางกรมอุทยานฯ ได้มาตรวจสอบพื้นที่เลี้ยงว่ามีความเหมาะสมหรือยัง และได้อนุญาตให้ทำการเคลื่อนย้ายมาเลี้ยงได้ที่เมืองพัทยาหรือยัง ถ้ายังก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้และอุทยาน ซึ่งมีโทษปรับ 50,000 บาทจำคุกหกเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่พาตระเวนเที่ยวทั่วเมืองนั้น ขณะนี้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ชื่อเจ้าของที่ระบุไว้ ก็ยังไม่ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องรอการตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป

สำหรับ “สิงโต เป็นสัตว์ที่เลี้ยงหรือครอบครองได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตจากคนขายทุกครั้ง ส่วนรายละเอียดการเลี้ยงอยู่ภายใต้เงื่อนไขห้ามก่อความเดือดร้อนต่อผู้อยู่อาศัย หรือส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง ซึ่งพื้นที่ใช้เลี้ยงสิงโตต้องมีบริเวณกว้างขวาง, กรงอยู่ในพื้นที่ 4 คูณ 4 เมตร”