เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้าคดีกลุ่มผู้ต้องหาตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว หลังเมื่อวานนี้ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ได้เดินทางเข้ามาพบ โดยมีรายงานว่าเป็นการเข้ามาปรึกษาหลังถูกบุคคลปริศนาไปวนเวียนแถวบ้านพัก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า วานนี้ (7 ก.พ.) อธิบดีกรมการข้าวได้เข้ามาพบเพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงความประสงค์ที่จะช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์การทำงานของหน่วยงาน ส่วนประเด็นที่คาดว่าถูกคุกคามนั้น ตอนนี้ข้อเท็จจริงยังไม่แน่ชัด แต่อธิบดีฯ บอกว่า ได้มีรถยนต์ที่ผิดปกติมาวนเวียน และมีโดรนหล่นลงมาในบริเวณบ้าน จึงทำให้เกิดความกังวล และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัย ซึ่งตำรวจก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ในส่วนของพยานหลักฐานจากอธิบดีฯ และครอบครัว ถือว่าตอนนี้ได้มาเพียงพอแล้ว

ส่วนความคืบหน้าในการขยายผลกลุ่มผู้ต้องหานั้น ล่าสุดได้มีการออกหมายเรียกบุคคลใกล้ชิดกับนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่เป็นผู้หญิง 1 ราย โดยจากพยานหลักฐานกล้องวงจรปิดและแชตไลน์ พบว่าเป็นตัวการร่วม แต่เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ตำรวจและศาลจึงเห็นตรงกันว่าต้องดำเนินการตามหลักการ ไม่รุนแรง จึงให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในวันศุกร์ที่ 16 ก.พ. 67 โดยขณะนี้ยังติดต่อผ่านทนายความได้อยู่

นอกจากนี้ ยังจะเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 1 รายมารับทราบข้อกล่าวหา โดยรายนี้สามารถติดต่อได้ และเจ้าตัวแจ้งว่าประสงค์จะเดินทางเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ด้วยตนเอง ภายในสัปดาห์หน้า จึงยังไม่ได้ออกหมายเรียก

กรณีของนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน ที่ได้นำข้อมูลมาให้พนักงานสอบสวน ปปป. วานนี้ พบว่าเป็นการให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเป็นผู้ต้องหากลุ่มเดียวกัน และมีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน ซึ่งนายเสกสกล ได้นำหลักฐานมาให้หลายอย่าง แต่ไม่ได้มีการร้องขอให้โอนคดีมาที่ ปปป. แต่ข้อมูลที่นำมาให้ก็เป็นประโยชน์ที่นำมาใช้ขยายผลได้ ทำให้คดีมีน้ำหนักมากขึ้น แต่ในส่วนของ นาย ว. จะต้องเรียกมาสอบหรือไม่ เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน

เมื่อถามถึง กรณีที่มีผู้เปิดเผยว่า นายเสกสกลเอง มีพฤติกรรมเดียวกันในการเรียกรับเงินวิ่งเต้นโครงการรัฐ จะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า อย่าเพิ่งไปเปิดแผลแรมโบ้ ตอนนี้ข้อมูลที่ให้มาถือว่ามีประโยชน์แต่ถ้า นาย ว. ที่ถูกกล่าวอ้าง มีข้อมูลเรื่องดังกล่าว ก็สามารถมาให้ข้อมูลได้

สำหรับความคืบหน้าในการขยายผลไปยังความเสียหายวงใหม่นั้น ตอนนี้มีข้อมูลที่กำลังตรวจสอบมีมากกว่า 10 วง ทั้งวงที่อยู่ในขั้นตอนเจรจา และวงที่มีการถอนเรื่องร้องเรียนออกไปแล้ว โดยวงที่ 2 ที่กำลังจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ ผู้เสียหายก็คือบุคคลที่ได้ไปพบมาเมื่อวาน คือ นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี โดยพบว่ามีแผนประทุษกรรมในการไปเจรจาเหมือนกันทุกอย่าง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ก่อเหตุ ใช่ นาย อ. กับ นาย จ. หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นกลุ่มเดียวกัน

โดยลักษณะมีการเข้าไปพูดคุยกับนายกองตรีธนกฤต แต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วย และได้มีการชี้แจง กลุ่มนี้ก็เลยไปพูดคุยกับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ซึ่งรัฐมนตรี ก็มีการชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ก็ยังดื้อดันทุรัง พยายามที่จะตีให้ได้ ทั้งนี้ ตัวเลขที่เรียกเงินถือว่าไม่เยอะมาก “แค่เด็กๆ” เพราะยังไม่พบการกระทำผิด แค่เป็นการดิสเครดิตให้เสียชื่อเสียง และทางผู้เสียหายก็ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินให้ไป โดยวง 2 นี้ พนักงานสอบสวนกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วน จะส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาถึงอำนาจหน้าที่ต่อไป

ส่วนวง 3 ที่จะเปิดต่อไปนั้น ขอยังไม่บอกว่าเป็นหน่วยงานไหน แต่ก็เป็นหน่วยงานข้าราชการ ผู้เสียหายเป็นระดับผู้ใหญ่ โดยผู้เสียหายรับปากว่าจะเข้ามาให้ข้อมูล ขณะนี้อยู่ระหว่างการนัดหมายกัน และในวันจันทร์ที่ 12 ก.พ. นี้ ข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 คน ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นำรายชื่อมามอบให้ ก็ได้นัดหมายว่าจะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลด้วย