สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ว่านายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย กล่าวถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ ว่าในภาพรวมมีมูลค่าการลงทุนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อัตราเงินเฟ้อและอัตราว่างงานมีแนวโน้มลดต่ำลง โดยรวมถือว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในเกณฑ์ยั่งยืน เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง


อย่างไรก็ตาม อันวาร์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ธนาคารกลางมาเลเซียเพิ่มการจับตาสถานการณ์ค่าเงินริงกิต ขณะที่หน่วยงานรัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันทุกวัน เพื่อหารือเกี่ยวกับความผันผวนของค่าเงินริงกิต และหาทางแก้ไข


ผู้นำมาเลเซียขอให้ทุกฝ่ายมองสถานการณ์ “อย่างครอบคลุม” และไม่ควรนำไปเปรียบเทียบกับวิกฤติค่าเงินเมื่อปี 2541 ซึ่งอันวาร์กล่าวว่า ตอนนั้นค่าเงินริงกิตลด อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น และการลงทุนลดลง แต่สถานการณ์ตอนนี้ “แตกต่างกัน”


ทั้งนี้ ค่าเงินริงกิตมาเลเซียร่วงเกือบ 3.0% สู่ระดับเกือบ 4.8 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นการอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำที่สุด ในรอบ 26 ปี หรือนับตั้งแต่วิกฤติการเงินเอเชีย เมื่อเดือนม.ค. 2541 ขณะเดียวกัน เงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่าไปแล้วมากกว่า 4% นับตั้งแต่ต้นปีนี้


ขณะที่ดาโต๊ะ อับดุล ราชีด กัฟฟูร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย กล่าวว่า “ปัจจัยภายนอก” ซึ่งรวมถึงการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์การเมืองโลก และแนวโน้มของเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่แน่นอน มีผลต่อการแกว่งตัวของค่าเงินริงกิตมาเลเซีย


ส่วนนายอาเมียร์ ฮัมซา อาซิซาน รมว.คลังคนที่สองของมาเลเซีย คาดการณ์ว่า เงินริงกิตมาเลเซียจะกลับมาแข็งค่าอีกครั้งเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อใดก็ตามที่เฟดยุติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และอัตราการส่งออกของประเทศที่ยังอยู่ในระดับดี จะช่วยให้เศรษฐกิจของมาเลเซียยังคงมีผลงานอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES