จากกรณีที่ กัน จอมพลัง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ส่งภาพคลิปและข้อมูลสถานรับเลี้ยงเอาเด็กพิการนับ 10 คน ขังไว้ในห้องเปล่า ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม ไม่มีที่นอน ไม่มีหมอน บางคนถูกแก้ผ้าขังรวมไว้ในห้องให้เพื่อนดู มีการตบหัวดึงหู ให้เด็กอดน้ำจนเด็กต้องกินน้ำในห้องน้ำ มูลนิธิแห่งนี้อยู่ภายในพื้นที่เขต ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

ต่อมาเวลา​ 10.00 น.​ วันที่​ 26​ ก.พ. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง​ พร้อมด้วย นายพงษ์ภัทร​ แสงพิทูร​ ​นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ นางวาริน วีระสุนทร​ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี​ นายปริญ นิทัศน์​เอก​ นายอำเภอไทรน้อย​ น.ส.อภันตรี​ สมนึกแท่น​ อายุ​ 30 ปี​ ผู้ร้องเรียน​ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย เดินทางเข้าตรวจสอบภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 7​ ต.ไทรน้อย ​อ.ไทรน้อย​ จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น​ เปิดเป็นศูนย์พัฒนาบุคคลออทิสติกฯ ภายในบ้านถูกต่อเติมออกมาทางด้านข้าง​ เป็นที่สำหรับเลี้ยงเด็กตอนกลางวัน​ เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง ปรากฏว่าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้ กัน จอมพลัง และผู้สื่อข่าวเข้าไปในบ้าน แต่ให้นายอำเภอและเจ้าหน้าที่ พม. จำนวน 3​ คน เข้าไปตรวจสอบด้านใน​

น.ส.เอ อายุ​ 30 ปี​ ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า ตนเองเริ่มเข้าไปทำงานที่ศูนย์แห่งนี้ วันแรกวันที่ 17 ก.พ.​ ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปถึงช่วงเช้า ได้อาบน้ำให้​เด็กทั้งหมด 10​ คน​ เป็นชาย​ 9​ คน หญิง​ 1​ คน​ มีทั้งเด็กที่ไป-กลับ และเด็กที่นอนค้างในศูนย์ โดยทางศูนย์แจ้งว่าให้ใช้แปรงสีฟันแปรงฟันให้เด็กเพียงอันเดียว หลังจากใช้เสร็จแล้ว ให้ใช้ที่ฉีดก้นฉีดแปรง​ ซึ่งหน้าที่ของตนคือดูแลทั่วไป ไม่ให้เด็กทำร้ายหรือแย่งของกัน​ อาหารที่เด็กได้ทานวันที่ตนทำงาน ก็จะเป็นผัดวุ้นเส้นกับข้าวเปล่า เวลาทานข้าวประมาณ 10 โมงเช้า พอตกเที่ยงเด็กบางคนก็จะหิว พอถามแม่บ้านของศูนย์ ก็บอกว่าให้ไปถามคนที่เป็นแม่ ซึ่งผู้หญิงคนที่เป็นแม่ก็จะให้ทานอีกที จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเป็นช่วงเวลาที่เด็กน่าจะร้อนมาก เพราะอยู่แต่ในห้องไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม อีกทั้งทางศูนย์ก็ไม่ให้ดื่มน้ำ เพราะเกรงว่าเด็กจะปัสสาวะบ่อย ตนเข้าไปทำงานเป็นผู้ช่วย มีหน้าที่ล้างก้นเด็ก อาบน้ำให้เด็ก และต้องนอนกับเด็กสัปดาห์ละ 4 วัน เมื่อตนมาทำงานเห็นสภาพความเป็นอยู่แล้วรับไม่ได้ ส่วนเด็กออทิสติกที่เห็นแก้ผ้านั้น ทางศูนย์บอกว่าไม่ต้องใส่เสื้อผ้า เพราะถ้าใส่เด็กก็จะถอดออก คิดว่าเด็กน่าจะร้อน โดยส่วนตัวคิดว่าผู้ปกครองที่ส่งเด็กมาอยู่ที่นี่น่าจะไม่ทราบเรื่อง

ผู้ร้องเรียน กล่าวอีกว่า วันที่ตนเข้ามาทำงาน มีผู้ปกครองมาเยี่ยมเด็ก ทางศูนย์ให้พาเด็กขึ้นไปอยู่ชั้นบน หลังจากขึ้นข้างบนแล้วเด็กคนนั้นได้เดินเข้าห้องน้ำ ไปตักน้ำในอ่างอาบน้ำกิน​ และก่อนหน้านี้มีเด็ก 1 คน อุจจาระและเล่นอุจจาระของตัวเอง ก็จะถูกดึงหู​ ถูกดุว่า ตนเองเห็นแล้วรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น​ หลังจากนั้นจึงได้ส่งไลน์บอกคนที่รับสมัครงานว่า ไม่ขอทำแล้ว รับไม่ได้ขอออกเลย​ โดยคนที่รับสมัครงานถามว่า​ทำไมถึงออก​ ตนก็ตอบเขาไปว่ารับไม่ได้ที่เด็กโดนตี แปรงสีฟันอันเดียวใช้หลายคน ให้เด็กกินน้ำในห้องน้ำ​ จึงขอลาออก และได้ถ่ายรูปและถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นได้ปรึกษากับเพื่อนว่าจะทำยังไงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเพื่อนสนับสนุนให้ไปร้องเรียนที่ กัน จอมพลัง จึงตัดสินใจนำคลิป นำรูปภาพที่ถ่ายไว้ไปร้อง​เรียน อีกอย่างตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แล้วมาเจอเหตุการณ์แบบนี้จึงหดหู่และรับไม่ได้

ด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง​ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดี ขอให้มาช่วยเหลือเด็กออทิสติก ที่อยู่ในสถานที่รับเลี้ยงที่ค่อนข้างดี ค่าเลี้ยงดูราคาประมาณ 20,000-30,000 บาท แต่ภาพและคลิปวิดีโอที่ตนได้รับจากพลเมืองดี ตนเห็นแล้วตกใจ เด็กอาศัยรวมกันอยู่ในห้อง ไม่เปิดแอร์ ไม่มีที่นอน ไม่มีหมอน นอนกับพื้นปูน ภาพค่อนข้างหดหู่ เด็กบางคนไม่สวมเสื้อผ้าเดินรวมอยู่กับเด็กคนอื่น เหมือนไม่ใช่สถานที่รับเลี้ยงดูแลเด็กที่มีราคาสูง จึงได้ประสานทางปลัดพัฒนาสังคม และประสาน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย ให้เข้ามาตรวจสอบ

นอกจากนี้ ตนยังได้รับทราบมาว่าเด็กทั้งหมดใช้แปรงสีฟันอันเดียวกัน และใช้สายฉีดก้นล้างแปรง เรื่องนี้ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเหมาะสมกับการเลี้ยงดูหรือไม่ และเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งยังมีเรื่องทำร้ายร่างกาย ถูกตบ ถูกตีที่ศีรษะ ตีที่บริเวณหู ซึ่งสถานรับเลี้ยงปกติทั่วไปเขาไม่ทำแบบนี้ ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กได้รับการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่

พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย กล่าวว่า สำหรับเคสนี้ได้รับการประสานจาก พม.และอำเภอไทรน้อย ให้เข้าร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นนำเด็กออทิสติกจำนวน 7 ราย ไปส่งที่บ้านพักเด็กปากเกร็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่ พม.จะเข้าแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย เพื่อเป็นหลักฐานในการเข้าตรวจสอบ ในส่วนเรื่องการขออนุญาตเปิดสถานรับเลี้ยงเด็กว่าเปิดถูกต้องหรือไม่นั้น ตรงนี้เป็นความรับผิดชอบของทางอำเภอไทรน้อย ต้องขอเวลาในการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง.