เมื่อวันที่ 8 มี.ค. กำลังตำรวจน้ำบางสะพาน กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ กองกำกับการ 2 ที่มี พ.ต.ท.นัฐพงศ์ ตาแก้ว รอง ผกก.4 บก.รน. เป็นหัวหน้าชุด และ พ.ต.ต.อภิภพ กิจพฤกษ์ สว.ส.รน.6 กก.4 บก.รน. (ตำรวจน้ำบางสะพาน) เป็นรองหัวหน้าชุดฯ นำเรือตรวจการณ์ 630 ซึ่งเป็นเรือควบคุมสั่งการและเรือยางท้องแข็ง RHIB 02 ซึ่งเป็นเรือตรวจค้น ออกไล่ล่าติดตามจับกุมเรือประมงเวียดนาม ที่รุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย หลังจากได้รับแจ้งจากกลุ่มเรือประมงไทยว่า พบกลุ่มเรือประมงไร้สัญชาติลักลอบเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย ห่างจากทุ่นไฟปากร่องท่าเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 59 ไมล์ทะเล

โดยเรือประมงเวียดนามพยายามเร่งเครื่องหนีสุดชีวิตเพื่อที่จะให้พ้นเขตน่านน้ำไทย แต่ทางตำรวจน้ำเปิดฉากไล่ล่าฝ่าคลื่นลมกลางทะเลตามประกบตามยุทธวิธีชนิดเกาะติดกัดไม่ปล่อยใช้เวลาไล่กวดกันกลางทะเลเกือบ 1 ชม. จนเรือประมงเวียดนามต้องยอมจำนนจอดเรือลอยลำกลางทะเล ทางตำรวจน้ำจึงเข้าควบคุมเรือประมงเวียดนามลำนี้เอาไว้ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลากมีลูกเรือทั้งหมด 13 คน และควบคุมกลับไปเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือน้ำลึก อ.บางสะพาน เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำลูกเรือถึงที่มาที่ไปของการลักลอบเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทยเพราะคาดว่าน่ายังมีอีกหลายลำ และขยายผลไปยังกลุ่มนายทุนของกลุ่มเรือประมงต่างชาติเหล่านี้

ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ว่าทางตำรวจน้ำทั้งในพื้นที่สงขลาจะจับกุมเรือประมงเวียดนามได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงพยายามลักลอบเข้ามาทำการประมงโดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม ก่อนส่งตัวลูกเรือทั้ง 13 คน ดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ พร้อมด้วย พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ พ.ร.บ.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทยฯ พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทยฯ และพ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคมฯ

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ได้สั่งการให้ตำรวจน้ำที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ทะเลไทยทุกจังหวัดออกลาดตระเวนตรวจสอบการทำผิดกฎหมายทางทะเลโดยเฉพาะกลุ่มเรือประมงเวียดนามที่มักจะลักลอบเข้ามาทำการประมงอย่างต่อเนื่อง.