ความเคลื่อนไหวของ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ทั้งทีมชุดใหญ่และทีมชุด ยู-23 ที่มีโปรแกรมลงแข่งขันรายการใหญ่นั้น ล่าสุด โจนาธาร เข็มดี ปราการหลังลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก วัย 21 ปี ของสโมสร “ราชันมังกร” ราชบุรี เอฟซี ในศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก 2023/24 ออกมาเปิดใจผ่านรายการ “คุยนอกสนาม” EP. 32 ทางเพจ ฟุตบอล 108 ถึงเส้นทางการค้าแข้งตั้งแต่จุดเริ่มต้นมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับรุ่นพี่ในทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่เคยเป็นกระแสข่าวก่อนหน้านี้ และไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวอย่างไร แต่หลังผ่านไปก็ได้เรียนรู้ และปรับตัวใหม่แล้ว โดยตั้งเป้าอยากกลับมาติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ทั้งทีมชุดใหญ่ และยู-23 รวมทั้งหวังกลับไปค้าแข้งในยุโรปอีกครั้ง โดยจะเริ่มต้นจากการไปเล่นในลีกญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ ก่อน

โจนาธาร กล่าวว่า ตนเองเกิดที่ไทย แต่ไปเติบโตและอยู่ที่เดนมาร์ก 12 ปี ซึ่งกลับมาเมืองไทยเมื่อปีทีแล้ว โดยตอนไปเล่นฟุตบอลที่เดนมาร์ก ยอมรับว่ายากมาก ทั้งเรื่องภาษาและสภาพร่างกายของนักฟุตบอลยุโรปที่แข็งแกร่งตัวใหญ่ ตอนนั้นเริ่มเล่นกับทีมเล็ก ก่อนย้ายไปทีมใหญ่เมื่ออายุ 13 ปี ซึ่งเริ่มเล่นตำแหน่งปีกขวา ก่อนมาเป็นกองกลางและกองหลัง จากนั้นเซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับอะคาเดมีของโอบี โอเดนเซ เมื่ออายุ 17 ปี ก่อนเซ็นกับชุดใหญ่เมื่ออายุ 19 ปี แต่หลังจากนั้นหลังเลิกกับแฟนสาว และอยากย้ายมาลองเล่นลีกใหม่ เลยตัดสินใจไปคุยยกเลิกสัญญากับสโมสร เพื่ออยากเปลี่ยนชีวิตใหม่มาเล่นในไทยลีก

พร้อมระบุต่อว่า ตอนติดทีมชาติไทยครั้งแรก ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดทำศึกชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก ที่มองโกเลีย ดีใจมาก ก่อนติดทีมอีกครั้งชุดทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา ซึ่งมีภาพขว้างเหรียญเงินให้กับแฟนบอล ซึ่งต้องบอกว่าตนอยากให้กับแฟนๆ ที่เดินทางมาเชียร์ ให้ได้หมดทั้งเสื้อ, รองเท้า และเหรียญ ไม่เป็นไร ให้ได้หมด ไม่ได้เก็บสะสม ส่วนที่โพสต์อินสตาแกรมเลิกเล่นทีมชาติตอนนั้น แค่รู้สึกเกมเยอะมาก เหนื่อยมาก อยากโฟกัสที่เกมลีก อยากพักเท่านั้น ไม่ได้จะเลิกเล่น

ส่วนกระแสก่อนหน้านี้ที่มีปัญหากับรุ่นพี่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ชุดทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2020 ที่สิงคโปร์ นั้น โจนาธาร ยืนยันว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ตนเป็นคนขี้อายมาก ไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง และต้องเคารพยังไง ซึ่งที่เดนมาร์กมีความแตกต่างในจุดนี้ ตอนนั้นตนไม่สบายเจ็บท้องมากตลอด 10 วัน โทรฯ คุยกับแม่และเอเย่นต์ ก็บอกให้สู้ๆ แต่ตนไม่เคยไม่สบายในต่างประเทศ และอยากกลับไปหาหมอจริงๆ ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับรุ่นพี่

ส่วนการเล่นให้กับทีมราชบุรีก็ได้ปรับตัวใหม่ ยอมรับว่ายากมาก แต่มีคนช่วย ทำให้ปรับตัวได้เยอะมาก โดยตนซ้อมกับลงแข่งซีเรียสมาก เพราะอยากช่วยทีม พอไม่ได้ซ้อมก็เล่นแกล้งเพื่อนร่วมทีมเป็นปกติ เป้าหมายหลังจากนี้อยากกลับไปเล่นในยุโรป ยอมรับว่ายาก แต่ทำได้ ค่อยๆ ทีละสเต็ป เริ่มจากการไปเล่นในลีกญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ไปโชว์ฟุตบอลแล้วค่อยไปยุโรป ส่วนทีมชาติไทย ก็อยากกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง เพราะชอบแฟนบอลไทย และประเทศไทยมาก อยากเล่นชุดใหญ่ หรือทีมยู-23 ก็ดี

“ในทีมชาติชุดใหญ่ ผมดูตอนเอเชียนคัพ ผมชอบทีมเวิร์ก ทุกคนวิ่งสู้ด้วยกัน ผมคิดว่าผมเล่นได้ ไม่รู้ว่าในลีกมีใครเล่นเก่งกว่าผม ผมคิดว่าผมเป็นเซ็นเตอร์แบ๊กเก่งที่สุดในลีก ผมสู้ได้ทุกคน หรือจะติดทีมยู-23 ก็โอเค ผมชอบโค้ชหระ (อิสสระ ศรีทะโร) ในเรื่องสไตล์การทำทีม คิดว่าโค้ชเก่งมาก เป้าหมายของผมในระยะสั้นอยากชนะทุกเกมกับราชบุรี อยากติดทีมชาติไทย ส่วนเป้าหมายระยะยาวอยากกลับไปยุโรปอีกครั้ง ท้ายที่สุดนี้ต้องขอบคุณแฟนบอลชาวไทย แฟนบอลราชบุรี ที่สนับสนุนผมเป็นอย่างมาก” กองหลังดาวรุ่ง กล่าว