เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 67 ที่ชายหาดหัวหิน จ.ประจวบฯ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. เป็นประธานปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น มี นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย รอง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.ทัยเลิศ ลือปือ ผกก.1 บก.ทท.3 พ.ต.ท.อาณัฐชัย ก้อนทอง สวญ.ส.ทท.2 กก.1 บก.ทท.3 นายสมชาย กระแจะเจิม ที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และคณะ จนท.ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) ตม.ประจวบฯ สภ.หัวหิน เทศกิจ มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เข้าร่วมในพิธี ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ใช้บริการบริเวณชายหาด อากาศแจ่มใส
พล.ต.ต.พงษ์สยาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ที่สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ระดมกวาดล้างอาชญากรรมการกระทำความผิดในคดี 10 กลุ่มต้องห้าม Overstay และความผิดอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ประกอบไปด้วย ทัวร์ด้อยคุณภาพ ความผิด พ.ร.บ.ธุรกิจน่าเที่ยวและมัคคุเทศก์, หลอกลวงให้ซื้อสินค้าบริการที่ด้อยคุณภาพและในวงเงินสูง, ยานพาหนะ เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว, สถานบริการผิดกฎหมาย, จัดระเบียบการจราจร, ยาเสพติดในแหล่งท่องเที่ยว, อาชญากรรมข้ามชาติและลักลอบหลบหนีเข้าเมือง, อุบัติเหตุและมาตรฐานความปลอดภัยในวงจรการท่องเที่ยว, คดีอาชญากรรมที่สำคัญและส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยว และทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลพกพาอาวุธบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทำพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในไทย
สำหรับในปีนี้ เป็นปีที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับนโยบายการท่องเที่ยวปลอดภัยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในห้วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ จะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางไปท่องเที่ยวทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญๆ ก่อให้เกิดรายได้ของประเทศ ขณะเดียวกันอาจมีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสนี้ สร้างสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาพรวม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น
