เมื่อเวลา 12.15 น. วันที่ 18 มี.ค. นางเอ (นามสมมุติ)  อายุ 42 ปี นำ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว เข้าร้องเรียนต่อนายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย และสื่อมวลชนว่า ด.ญ.บี อายุ 13 ปี โดน น.ส.ดรีม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เพื่อนรุ่นพี่ลวงไปให้ นายบอล อายุ 40 ปี ข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี เหตุเกิดวันที่ 13 มีนาคม 2567 ซึ่ง ด.ญ.บี เล่าให้พี่สาวและพี่ชายฟัง และมาเล่าให้แม่ฟัง ก่อนพาไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยหลวง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567 แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบ จึงมาขอความช่วยเหลือจากเฮียเปี๊ยกและสื่อมวลชน ซึ่งได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี

โดย นางเอ เล่าให้ฟังว่าตนมีลูก 3 คน ด.ญ.บี เป็นคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ได้รู้จักกับ น.ส.ดรีมเพื่อนรุ่นพี่ต่างโรงเรียน วันที่ 13 มีนาคม 67  น.ส.ดรีมได้ขออนุญาตตนพา ด.ญ.บี ไปดูหมอลำในงานบุญโดยอ้างว่ามีพี่ชายไปด้วย ต่อมานายบอลได้ขับรถยนต์มารับแต่นายบอลไม่ได้พาไปดูหมอลำ แต่พาไปเปิดรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.เชียงยืน อ.เมืองอุดรธานี โดยให้ น.ส.ดรีมและ ด.ญ.บี อยู่ในห้องด้วยกัน ส่วนนายบอลขับรถออกไปทำธุระ ไม่นานนายบอลก็ขี่จยย.เข้ามาที่รีสอร์ท 

ส่วน น.ส.ดรีมได้บอกว่าจะไปทำธุระกับเพื่อนชายให้ ด.ญ.บี อยู่คอยในห้องกับนายบอล ด.ญ.บีขอไปด้วย แต่ น.ส.ดรีมไม่ให้ไปอ้างว่ารถจักรยานยนต์ซ้อน 3 ไม่ได้หลังจาก น.ส.ดรีม ขี่รถออกไป ด.ญ.บี ก็ออกมานั่งรออยู่นอกห้องแต่ด้วยความกลัวทั้งผีและกลัวทั้งคน ด.ญ.บีจึงเข้าไปในห้องแล้วเข้าไปนั่งอยู่ในห้องน้ำ นายบอลได้นั่งดื่มเบียร์ 2 ขวด พอเบียร์หมดก็ได้เรียก ด.ญ.บีออกมาจากห้องน้ำ เมื่อออกมานายบอลก็ใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี ซึ่งได้ขัดขืนแต่สู้แรงนายบอลไม่ได้ จึงถูกนายบอลข่มขืนไป 1 ครั้ง

นางเอ เล่าต่อว่า หลังจากข่มขืน ด.ญ.บี เสร็จแล้ว นายบอลก็ยังอยู่ในห้อง ไม่นาน น.ส.ดรีมก็ขี่รถจักรยานยนต์มากับเพื่อนผู้ชาย ด.ญ.บีได้เล่าให้ น.ส.ดรีมฟังว่าถูกนายบอลข่มขืน น.ส.ดรีมจึงพานายบอลไปพูดคุยนอกห้องไม่ให้ ด.ญ.บีได้ยิน  พอรู้เรื่องแล้ว น.ส.ดรีมก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งเพื่อนชาย ปล่อยให้ ด.ญ.บี อยู่ในห้องกับนายบอลอีกแต่นายบอลไม่ได้ลงมือข่มขืนซ้ำ

นางเอ เล่าต่ออีกว่า พอ น.ส.ดรีมกลับมาและได้รับ ด.ญ.บีกลับมาบ้าน เพื่อนนายบอลได้ข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร แต่ ด.ญ.บีได้เล่าในไลน์เรื่องถูกข่มขืนให้พี่ชายฟังซึ่งพี่ชายได้ก๊อบข้อความแชตส่งให้พี่สาวดู พี่สาวจึงเล่าเรื่องที่น้องถูกข่มขืนให้ตนฟัง ซึ่งตนได้บอกพี่สาวไลน์ถาม ด.ญ.บี ว่าเกิดเหตุจริงหรือไม่ พอลูกยืนยันว่าจริง ตนก็ให้พี่สาวไปรับ  ด.ญ.บีที่บ้านเพื่อนกลับมา เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันที่ 16 มีนาคม จึงพาไปแจ้งความที่ สภ.ห้วยหลวง

“หลังจากแจ้งความแล้ว ตนรู้สึกว่า ด.ญ.บี มีอาการวิตกกังวล ไม่ปลอดภัยกดดัน สภาพจิตใจย่ำแย่ อีกทั้งมีความรู้สึกว่า น.ส.ดรีม ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่จะมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนางนกต่อ หลอกให้ลูกไปให้นายบอลข่มขืนและตนเกรงว่านายบอลจะลงมือข่มขืนซ้ำอีก เพราะยังจับนายบอลไม่ได้ ตนอยากให้ตำรวจจับนายบอลให้เร็วที่สุด ตนมาถึงขนาดนี้แล้วจะดำเนินคดีนายบอลจนถึงที่สุด แต่เกรงว่าคดีจะล่าช้า และไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาร้องเฮียเปี๊ยกและสื่อมวลชน”

ต่อมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี  เดินทางไปที่เกิดเหตุ  พร้อมกับเปิดเผยว่า นายบอล ผู้ก่อเหตุเคยถูกจับข้อหา “เสพยาบ้า” และเคยก่อเหตุข่มขืนในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว 2 คน แต่ผู้เสียหายทั้งสองคนไม่ไปแจ้งตำรวจและก็มาก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.บี ซ้ำอีก ในด้านคดีหลังได้รับแจ้ง ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง เจ้าของคดี ได้สอบปากคำเด็กและแม่ต่อหน้าสหวิชาชีพ เพื่อรวบรวมหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายบอล ข้อหา “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีโดยเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี พาเด็กไปเพื่อการอนาจาร พรากเด็กไปเพื่อการอนาจาร” และจะติดตามจับกุมนายบอลมาดำเนินการตามกฎหมายให้เร็วที่สุด